รมช.ประภัตร ผุดโครงการปลูกพริกซุปเปอร์ฮอท สร้างรายได้ช่วงแล้งลุยแจก 1 แสนต้นกล้า
นำร่อง จ.นครสวรรค์ เสริมรายได้สู้โควิด-19
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเกษตรกรในพื้นที่ตําบลหนองกรด และตําบลกลางแดด อําเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ว่า รัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตระหนักมีความเป็นห่วงเกษตรกร และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ รวมทั้งผลกระทบจากภัยพิบัติ ทั้งอุทกภัยและภัยแล้ง ตลอดจนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ในช่วงที่ผ่านมา จึงมีนโยบายเร่งด่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชน ให้สามารถประกอบอาชีพสร้างรายได้ จึงได้ส่งเสริมอาชีพทางเลือกให้เกษตรกรมีรายได้ช่วงภัยแล้ง 5 อาชีพ ได้แก่ 1.ปลูกพริกแดง 2.เลี้ยงปลาดุก 3.เลี้ยงจิ้งหรีด 4. เลี้ยงเป็ดไข่ และ 5.ไก่ไข่
โดยวันนี้ ได้นำร่อง “โครงการปลูกพริกซุปเปอร์ฮอท สร้างรายได้สู้โควิด-19” ในพื้นที่ ต.หนองกรด และ ต.กลางแดด จ.นครสวรรค์ โดยศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 6 จังหวัดพิษณุโลก ได้ทําการเพาะกล้าพริกเพื่อมอบให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจํานวน 200 ราย กล้าพริกจํานวน 100,000 ต้นกล้า ในพื้นที่นําร่อง 50 ไร่ พร้อมทั้งแนะนําและให้ความรู้แก่เกษตรกรเพื่อปลูกในช่วงฤดูแล้ง วัตถุประสงค์เพื่อลดพื้นที่การปลูกข้าวนาปรัง สลับปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชทางเลือก หรือกิจรรมทางการเกษตรที่มีมูลค่าสูงเพื่อเป็นการเสริมรายได้ รวมทั้งสร้างโอกาสให้เกษตรกรได้เรียนรู้การเพาะปลูกพืชชนิดอื่นในพื้นที่นา เป็นเกษตรกรรมทางเลือกให้ชาวนาในระยะยาว ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งในการสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกร และจะผลักดันให้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตามการดำเนินการดังกล่าวตนได้มอบหมายให้สํานักงานเกษตรจังหวัดนครสวรรค์ เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วม ทั้งหมดโดยจะเป็นการทํางานบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการเกษตร โดยสํานักงานเกษตรจังหวัดนครสวรรค์ กรมพัฒนาที่ดิน สํานักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ศูนย์ขยายพันธุ์พืช ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดพิษณุโลก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร องค์การบริหารส่วนตําบลกลางแดด และบริษัทอีสท์ เวสท์ ซีด จํากัด (ศรแดง) ที่ให้การสนับสนุนปัจจัยการผลิตที่จําเป็นแก่เกษตรกร รวมทั้งการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี ตลอดจนประสานภาคเอกชนในการรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรมต่อไปด้วย