กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ปรับแผนการปฏิบัติเน้นการลาดตระเวน หลังภาคเหนือเกิดจุด Hotspot
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 พลตรี ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า (รอง ผบ.บก. ศฟป.ทภ.3 สน.) กล่าวว่า จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ พบว่ามีค่า PM 2.5 ระหว่าง 25 – 111 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ค่า PM 10 ระหว่าง 41 – 145 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ค่าAQI ระหว่าง 25 – 221 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับ ปานกลาง ถึง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก.จังหวัดลำปาง จังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง 5 จังหวัด ที่ยังคงมีปริมาณฝุ่นต่อเนื่อง
รองแม่ทัพภาคที่ 3 และรอง ผบ.บก.ศฟป.ทภ.3 สน.กล่าวว่า จึงได้ปรับแผนการปฏิบัติเน้นการลาดตระเวนในพื้นที่เพ่งเล็งที่ยังไม่เกิดไฟป่า พร้อมจัดชุดรณรงค์สร้างจิตสำนึก 15 ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่สร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเพื่อลดการเผาในพื้นที่ ตลอดจนแนะนำประชาชนดูแลสุขภาพช่วงเกิดภาวะหมอกควัน
ทั้งนี้สถานการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน 17 จังหวัดภาคเหนือ จากจำนวน Hotspot (ดาวเทียมระบบ VIIRS) เช้าวันนี้ พบจุดความร้อน จำนวน 793 จุด เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 461 จุด พื้นที่ป่าสงวนฯ จำนวน 257 จุด และเขต สปก. จำนวน 31 จุด
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก