เฒ่าวัยหกสิบเลือดร้อน ชักปืนกระหน่ำยิงหนุ่มรุ่นลูก ดับคารถกระบะ
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ร.ต.ท.พลวัฒน์ สิริสุขรดาโรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายถูกยิงเสียชีวิต และขับรถยนต์กระบะพุ่งชนเข้าไปในอาคารพาณิชย์เลขที่ 1584 / 211 หมู่ 1 ซอยสุขุมวิท 78 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ้งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุได้พบร่างของนายสุรชัย ชูเกตุ อายุ 33 ปี นั่งฟุบคาอยู่กับพวงมาลัยรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า ไทเกอร์ สีบอร์นเทา ทะเบียน ลร 5298 กรุงเทพมหานคร ซึ่งพุ่งชนเข้าไปในอาคารพาณิชย์ชนรถจักรยานยนต์และข้าวของในบ้านจนพังยับเยิน อาสามูลนิธิได้ช่วยนำร่างอันชุมไปด้วยเลือดออกมาจากรถนำออกมาทำการปั้มหัวใจที่พื้นด้านนอก แต่ผู้เสียชีวิตคาดว่าทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตลง จากการตรวจสอบพบมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ต้นคอด้านหลังและต้นแขนซ้ายและกลางหลังรวม 4 แผล ตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้พบมีดปังตอและกองเลือดจำนวนมากกองอยู่ที่พื้นรถด้านล่างฝั่งซ้ายที่กระหน้ารถมีคราบเลือดสาดกระเซ็นเปื้อนอยู่เต็มกระจกหน้า และที่กระจกประตูรถฝั่งซ้ายยังพบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนจนเป็นรูโบ๋ ห่างจากที่จุดแรกไปประมาณ 100 เมตรได้พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวน 4 ปลอกและหัวกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่จำนวน 1 หัวพร้อมด้วยซองปืนสีดำ รวมทั้งกระจุกเส้นผมของผู้เสียชีวิตตกอยู่ จึงประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุและประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลสมุทรปราการร่วมชันตรวจสอบบาดแผลผู้เสียชีวิต ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลรามาสมุทรปราการ ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายชาติชาย เครือพาณิชย์วงศ์ อายุประมาณ 60 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บถูกมีดฟันเฉี่ยวที่กลางหน้าผาก หลังก่อเหตุนายทรัพย์ธชัย เครือพาณิชย์วงศ์ ผู้เป็นลูกชายได้ขับรถยนต์กระบะพาไปส่งรักษาที่โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปอายัดตัวเอาไว้ก่อนแล้ว
จากการสอบถาม น.ส.พรเพ็ญ รัตน์เรือง อายุ 36 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้นั่งดื่มเหล้าอยู่ที่ลานดินจุดที่พบปลอกกระสุนปืน ผู้ก่อเหตุได้เดินเข้ามาหาเรื่องผู้เสียชีวิตจนมีปากเสียงกันก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะท่าทายผู้ตายว่าให้รอเดี๋ยวจะกลับมา ผู้ก่อเหตุได้เดินกลับไปที่บานพักและขับรถยนต์กระบะมาจอดที่จุดที่เกิดเหตุก่อนที่จะเดินลงมาและใช้ด้านปืนตบเข้าที่ใบหน้าของผู้ตายไปหนึ่งครั้งผู้ตายจึงคว้ามีดปังตอขึ้นมาฟันเฉี่ยวหน้าผากผู้ก่อเหตุจนได้รับบาดเจ็บก่อนที่ผู้ตายจึงวิ่งขึ้นไปสตาร์ทรถยนต์กระบะเพื่อที่จะขับหลบหนีแต่ผู้ก่อเหตุได้วิ่งไล่ตามมากระหน่ำยิงใส่ผู้ตายจำนวน 4 นัดซ้อนซึ่งระหว่างนั้นผู้ตายยังไม่สิ้นใจจึงได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกไปอย่างรวดเร็วก่อนที่พุ่งชนเข้าไปในอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าวจนเจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้ก่อเหตุลูกชายได้ขับรถยนต์กระบะออกไปจากที่เกิดเหตุทันที
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงมือทำร้ายก่อนผู้ก่อเหตุซึ่งอายุมากกว่าเห็นท่าไม่ดีจึงกลับไปเอาปืนที่บ้านกลับมาก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
(สวงค์เที่ยงวัน)
จ.สมุทรปราการ