ฉก.ชทพ.12 อรัญประเทศ สระแก้ว รวบแรงงานเขมร 3 คน จ่ายค่ารถแท็กซี่ 3 พันบาท ขณะจะส่งข้ามแดนไทยเข้ากัมพูชา สารภาพจะไปแต่งงาน ช่วงตรุษจีน

สามหนุ่มชาวกัมพูชา ทำงานอยู่ในไทยมา5ปี หอบเงินค่าสินสอดจะกลับไปแต่งงานกับคนรักในประเทศกัมพูชาช่วงตรุษจีน จ้างคนไทยขับแท็กซี่จากแปดริ้วมาส่งที่ชายแดนสระแก้ว ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานจับได้ ขณะกำลังจะข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติ เบื้องต้นรับสารภาพจ่ายค่ารถแท็กซี่คนละ 1,000 บาท

รุ่งเช้าวันนี้(12ก.พ.) พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา จ.สระแก้ว ให้ทำการป้องกันและจับกุมการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานผิดกฎหมาย และการลักลอบนำเอาสิ่งผิดกฎหมายต่างๆข้ามชายแดนทางด้านจังหวัดสระแก้วในช่วงเทศกาลตรุษจีนอย่างเข้มงวด จึงได้สั่งการให้ พ.ท.ณัฐพล ม้วนเงิน รองผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 และพ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคับกองร้อยทหารพราน 1205 ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนและพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เพื่อป้องกันและจับกุมการลักลอบข้ามชายแดนอย่างเข้มงวด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบ้านหนองสังข์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนธนวิถีหมายเลข 358 สาย อรัญ-ตาพระยา เลียบชายแดนไทย-กัมพูชา พบรถแท็กซี่ต้องสงสัยวิ่งเข้ามาที่จุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นรถแท็กซี่คันดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้นพบว่ามีนายพายัพ เจริญศรี อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 114/31 ม.1 ต.บ้านหม้อ อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี เป็นคนขับรถแท็กซี่ ภายในรถมีชาวกัมพูชาจำนวน 3 คนนั่งโดยสารมาด้วย โดยชาวกัมพูชาทั้ง 3 คนมีหนังสือเดินทางประเภทพาสปอร์ต แต่หมดอายุแล้ว เจ้าหน้าทีจึงทำการควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการสอบสวนและคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กองร้อยทหารพราน 1205 อย่างละเอียด

ซึ่งจากการสอบสวนโดยผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชาชาวกัมพูชาทั้ง 3 คน ยอมรับว่าได้เดินทางเข้ามาทำงานก่อสร้างที่ จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นเวลา 5 ปีแล้ว หลังจากเก็บเงินได้ กับค่าสินสอด พวกตนจึงได้นัดหมายกับแฟนสาวและญาติๆในประเทศกัมพูชาว่า ในช่วงตรุษจีนปีนี้จะเดินทางไปแต่งงานตามที่รับปากไว้ ขอให้ญาติๆเตรียมจัดงานแต่งไว้รอได้เลย หลังจากนัดหมายกับแฟนและญาติๆแล้วพวกตนก็ติดต่อให้คนไทยมารับไปส่งที่ชายแดนไทยกัมพูชาทางด้านจังหวัดสระแก้ว เมื่อถึงชายแดนแล้วพวกตนก็จะลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติกลับไปฝั่งประเทศกัมพูชา แต่มาถูกจับเสียก่อน ส่วนนายพายัพฯยอมรับว่าได้รับการติดต่อจากคนขับวินเมอร์เตอร์ไซค์ ในอำเภอโคกสูงให้มารับชาวกัมพูชาทั้ง 3 คนที่บริเวณหน้าแคมป์คนงานก่อสร้าง ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อพามาส่งที่ชายแดนอำเภอโคกสูง โดยได้เงินค้าโดยสารจากชาวกัมพูชาคนละ 1,000 บาท ทำมาหลายครั้งแล้ว หลังสอบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวจากไตรรัตน์ มีวงษ์ จ.สระแก้ว