จ.ศรีสะเกษ !! ปิดและมอบประกาศนียบัตรโครงการพระราชทาน โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง รุ่นที่ 2/2 เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 เวลา 09.00 น หอประชุมมูลนิธิหลวงปู่สรวง เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานปิดและมอบประกาศนิยบ้ตรโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวังรุ่นที่ 2/2 เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ กรมราชทัณฑ์ โดยมีนายเริงศักดิ์ เกตุจันทึก ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และลูกจ้าง นำผู้ต้องขังที่เข้ารับมอบประกาศนียบัตรจำนวน 92 คน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ต้องขัง ได้นำไปประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่ แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดดินหนองทำนา เพื่อสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก ให้สามารถดำเนินการได้ในทุกเรื่อง และมุ่งเน้นการปรับพื้นฐานความคิด การฝึกวินัย การลงมือปฏิบัติตลอดจนการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนเมื่อพ้นโทษออกไป ภายนอก หลังจากนั้น นายเริงศักดิ์ เกตุจันทึก ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ก็ได้ทำการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่พ้นโทษทั้ง 92 คนด้วย
นายเริงศักดิ์ เกตุจันทึก ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดทำโครงการพระราชทาน โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง รุ่นที่ 2/2 ใช้เวลาการฝึกอบรม 14 วัน ในระหว่างวันที่ 11-24 มกราคม 2564 แบ่งขั้นการฝึกตอนออกเป็น 3 ขั้นตอนได้แก่ การฝึกอบรมพึ่งพาตนเองด้วยทฤษฎีใหม่เศรษฐกิจพอเพียง การแปลงทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง สู่การปฏิบัติประกอบด้วย การออกแบบแนวความคิดการบริหารการจัดการพื้นที่ขนาดเล็กการประยุกต์ทฤษฎีแบบชาวบ้าน ปั่นโคก ขุดหนองทำนา ตามภูมิสังคมบนกระดาษ การสร้างต้นแบบพื้นที่จำลองการวางแผนการปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง เพื่อพ่ออยู่ พอกิน พอใช้ และพอร่มเย็น การปฏิบัติในพื้นที่จริง ขนาด 180 ตารางเมตร ตามทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้านโคก ปั่นโคก ขุดหนองทำนายตามภูมิสังคม และการสรุป ประเมินผล การฝึกอบรมได้ดำเนินการเสร็จสิ้นครบถ้วน ตามหลักสูตรการฝึกแล้วผลการฝึกในเกณฑ์ดีมาก มีผู้สำเร็จการฝึกอบรมทั้งสิ้น 92 คน จากผลการดำเนินการที่ผ่านมาผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถพึ่งพาตนเอง ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรกรรมและเกษตรทฤษฎีใหม่ทั้งสามารถช่วยเหลือประชาชนให้ทำประโยชน์ เพื่อส่วนรวมได้หลังจากที่ผู้ต้องขังที่จะรับการพ้นโทษในโอกาสต่อไป จะต้องดำเนินการในพื้นที่ตามภูมิลำเนาของตนเอง อันเป็นการสืบสานปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในการสืบสานรักษาต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจให้แก่ประชาชน เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นและช่วยกันพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
ข่าว/ภาพ บุรทัศน์ ศรีสะเกษ