มารศาสนาบุกตีหัวพระจนมรณภาพ หวังชิงทรัพย์ขณะเดินธุดงค์อยู่กลางป่า
ขณะที่ญาติเผย ก่อนหน้านี้พระสุริยาเคยถูกขโมยเงิน-โทรศัพท์นับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยเอาเรื่องเพราะคิดว่าเป็นบุญเป็นกรรมที่มีร่วมกัน
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ทีมข่าวเดินทางไปที่สำนักปฏิบัติธรรมบ้านป่าผึ้ง หมู่ 2 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ก็ไปเจอกับนางฉวี ชาติชำนาญ อายุ 55 ปี ที่เปรียบเสมือนเป็นแม่ออก ได้เล่าว่า ปกติแล้วพระสุริยาจะเป็นพระสายธรรมยุติ คือจะฉันวันละ 1 มื้อ และจะธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขา ชอบปลีกวิเวกอยู่ตัวคนเดียวไม่สุงสิงกับใคร เดิมทีพระสุริยา ได้เดินธุดงค์มาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงที่นี่ และตัวพระสุริยาก็ได้เดินมาสำรวจและชอบสถานที่ที่นี่ จึงอยากตั้งเป็นจุดสำหรับนั่งสมาธิและสร้างที่นี่ให้เป็นสำนักสงฆ์ไว้สำหรับเป็นที่ปฏิบัติธรรมของคนที่มีจิตศรัทธา ป้าฉวีเล่าต่อว่า พอตนทราบว่ามีพระธุดงค์มาอยู่ที่นี่ ก็เข้ามาทำบุญ และคอยตักบาตร ช่วยเหลือพระสุริยา จนเปรียบเสมือนเป็นแม่ออกสำหรับพระสุริยา โดยทำแบบนี้มาประมาณ 3 ปีจนสนิทใจต่อกัน และทุกๆวัน ก็จะนำกับข้าว นำสิ่งของมาถวายพระสุริยา และช่วยทำความสะอาด ลานสำนักสงฆ์ให้ทุกวัน และก็จะกลับบ้านช่วงบ่ายสามโมงไปแล้ว แต่สำหรับเมื่อวันที่เกิดเหตุตนได้มาทำบุญและขอตัวกลับบ้านไป จึงไม่ได้อยู่กับพระสุริยาในช่วงที่เกิดเหตุ
สำหรับช่วงที่เกิดเหตุตอนนั้นตนอยู่ที่บ้าน โดยช่วงเวลา 11 โมง พระสุริยาได้โทรศัพท์มาหาตอนประมาณ 11 โมงว่า “มาหาที ตอนนี้โดนโจรตีหัว หัวแตก มาดูให้ที” ตนจึงรีบมาดูพระสุริยา เมื่อมาถึงก็เห็นพระสุริยานั่งร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่ที่ด้านหน้ากุฏิ ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และกู้ภัยให้รีบมาพาตัวพระสุริยาไปหาหมอ แต่พอแจ้งเจ้าหน้าที่ไป ก็รอเวลาจน 1 ชั่วโมงผ่านไปเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่มา และจู่ๆ พระสุริยาก็ล้มตัวลงนอน ก่อนจะหมดสติเสียชีวิตอยู่ตรงทางเดินข้างกุฏิที่เป็นทางเดินไปเข้าห้องน้ำ ทั้งนี้หลังพระสุริยาหมดสติไปรถกู้ชีพและตำรวจก็ยังไม่มา สุดท้ายพระสุริยาก็นอนเสียชีวิตตรงหน้ากุฏิที่เพิ่งสร้างเสร็จได้แต่ 10 วัน
ต่อมาทีมข่าวได้คุยกับนางอำนวย มีกุศลอายุ 46 ปี และนางไพบูลย์ ขันเพ็ชร 47 ปี พี่สาวของพระสุริยา ที่เดินทางมาทำพิธีศพที่สำนักสงฆ์บ้านป่าผึ้ง โดยสาเหตุที่ทำพิธีศพที่นี่ เนื่องจากพระสุริยาเคยพูดไว้ว่า ที่สถานที่แห่งนี้ จะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และก็จะเป็นที่นิพพานของพระสุริยาด้วย โดยถ้าวันนึงตัวพระสุริยามรณภาพ ก็ขอให้ทุกคนจัดพิธีสรีระสังขานที่นี่ และฝังหรือเก็บอัฐิไว้ที่นี่
ทั้งนี้สำหรับพระสุริยา ได้บวชมา 8 พรรษาแล้ว โดยเดิมทีก็บวชและจำวัดอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอสีชมพูจังหวัดขอนแก่น แต่พอบวชแล้วพระสุริยามีความชอบในสายธรรมยุติ ก่อนจะเริ่มเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ กระทั่งเดินไปเดินมา เดินมาถึงตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ พระสุริยา ได้นั่งทางใน ก่อนจะเห็นภาพในนิมิตว่า สถานที่จะทำให้เป็นสายธรรมยุติที่แท้จริงจะต้องไปปฏิบัติธรรมในที่ที่มีภูเขาสูง เป็นป่าช้าเก่า และพระสุริยาก็เดินมาจนพบสถานที่ที่รกร้างแห่งนี้ พระสุริยา จึงใช้ที่นี่เป็นที่ธุดงค์ ก่อนสร้างที่นี่เป็นสำนักสงฆ์ และอาศัยอยู่ที่นี่เพียงรูปเดียว ก่อนหน้านี้ญาติทุกคนเคยนิมนต์ให้พระสุริยากลับไปจำวัดที่บ้านเกิดที่อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี เพราะไม่อยากให้พระสุริยาอยู่งลำพัง แต่พระสุริยาก็บอกกลับมาทุกครั้งว่า จะไม่ขอไปไหน จะขออยู่และมรณภาพที่นี่
ทั้งนี้ทีมข่าวได้ตรวจสอบสภาพแวดล้อมของสำนักสงฆ์บ้านป่าผึ้ง จะเห็นว่าด้านหลังของกุฏิพระวุริยา มีสวนกล้วย และบ้านของชาวบ้านอยู่หลังนึง ทีมข่าวจึงเดินเข้าไปสอบถามข้อมูล ก็ไปเจอกับนางสาวจินตภา ตราทิพย์ อายุ 35 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้เล่าว่า ปกติทุกคนก็จะอยู่บ้าน และตอนกลางวันก็จะเข้าสวนไปรดน้ำ , ใส่ปุ๋ยกล้วย ก็จะเห็นพระสุริยาเดินปฏิบัติธรรมอยู่รูปเดียวทุกวัน โดยพระสุริยาจะเป็นพระที่รักสันโดด ไม่ชอบอยู่ร่วมกับใคร และเป็นพระที่ไม่รับกิจนิมนต์ ไม่รับซองปัจจัยจากญาติโยมเวลามาทำบุญ โดยพระสุริยาจะบอกทุกคนตลอดว่าถ้าจะมาทำบุญ ให้นำอาหารหรือสิ่งของที่พอช่วยเหลือคนยากไร้ได้มาถวาย เพราะจะได้แบ่งปันคนที่ไม่มีกินได้ จึงทำให้ชาวบ้านหลายคนในหมู่บ้านเลื่อมใส ศรัทธาพระสุริยา
สำหรับสถานที่สำนักสงฆ์บ้านป่าผึ้ง เดิมทีเป็นสุสานใช้สำหรับเป็นที่ฝังศพของคนในชุมชนในสมัยร้อยกว่าปีก่อน ก่อนจะมีวัดอยู่ที่หมู่บ้าน // ซึ่งก็แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมพระสุริยาที่เป็นพระต่างถิ่น ทำไมถึงทราบประวัติที่นี่ และบอกรายละเอียดตรงหมด เกี่ยวกับพื้นที่ที่จะมาธุดงค์จะต้องเป็นป่าช้าเก่า เป็นเนินสูงคล้ายอยู่บนภูเขา และที่สำคัญจะต้องห่างจากบ้านของผู้คน
ส่วนคนร้าย ยอมรับตรงๆว่ามืดแปดด้าน เพราะยังคาดการณ์ไม่ได้เลยว่าใครเป็นคนร้าย เพราะทุกคนในบ้านก็อยู่กันครบไม่มีใครหายไป ส่วนคนที่หมู่บ้านข้างๆ ก็ไม่มีใครมีเรื่องบาดหมาง หรืออยากทำร้ายพระสุริยา // จะคาดการณ์ว่าอาจจะเป็นคนต่างถิ่นที่มารับจ้างตัดอ้อย หรือทำการเกษตรแถวๆนี้ก็ไม่น่าใช่ เพราะถ้าเป็นคนต่างถิ่นก็จะไม่รู้ช่วงเวลาว่าเวลาไหนจะมีญาติโยมมาหาพระสุริยา หรือเวลาไหนที่พระสุริยาจะอยู่เพียงรูปเดียว
สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา ชาวบ้านในเขตละแวกใกล้เคียงได้ร่วมกันมาเตรียมสถานที่สำหรับทำพิธีกรรม และญาติๆตัดสินใจว่าจะฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 25 มกราคม 2564) ทันที โดยสถานที่ฌาปนสถานก็ได้รับแรงจากพระสงฆ์ในเขตหมู่บ้านข้างๆที่ทราบข่าว การเสียชีวิตของพระสุริยา ต่างเดินทางมากันเองเพื่อช่วยกันทำลานฌาปนสถานให้พระสุริยา
ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น ตำรวจอสภ.ห้วยยาง ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล โดยเฉพาะเส้นทางถนนเขื่อนจุฬาภรณ์-คอนสาร ซึ่งเป็นถนนหลักเส้นทางเข้าออกสำนักสงฆ์บ้านป่าผึ้ง อีกทั้งชุดสืยสวนก็ได้นำไม้ตะพด จอบ เสียม ของพระสุริยา ไปตรวจหา dna แฝงว่าใน 3 สิ่งนี้ จะเป็นสิ่งของที่คนร้ายใช้ลงมือก่อเหตุทำร้ายพระสุริยาจนมรณภาพหรือไม่
คำหอม ชุมชน 02 ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ//รายงาน