รวบ 11 แรงงานกัมพูชา ลักลอบข้ามแดนผ่านนายหน้ากบดานในบ้านเช่ากลางเมืองสุไหงโก-ลก
เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อช่วงคืนของวันที่ 14 มกราคม 2564 ที่ผ่านมาว่ามีบุคคลต้องสงสัยเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเช่าเลขที่ 145/5 ถนนทรายทอง 9 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่นำโดย พ.อ.อายุพันธ์ กรรณสูต ผบ.ชค.ปชด.นายอภินันท์ ชาจิตตะ ปลัดอำเภอสุไหงโก-ลก พ.ต.ท.สุเมธ กนกเหมพันธ์ สว.ตม.จว.นราธิวาส รวมทั้งเจ้าหน้าที่ร้อย.ปชด.ที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ชุดเฝ้าตรวจ 4411 เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.สุไหงโกลกและ ฝ่ายปกครองอ.สุไหงโกลก รุดเข้าตรวจสอบในบ้านเช่าหลังดังกล่าว พบแรงงานกัมพูชาจำนวน 11 ราย โดยแยกเป็นชาย 7 คน และผู้หญิง 2 คน รวมทั้งเด็กหญิง 2 คน นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ จากการสอบถามผ่านล่ามแรงงานกัมพูชาให้การว่า ทั้งหมดได้ลักลอบข้ามแดนมาจากรัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซียมาทางช่องทางธรรมชาติ และมากบดานอยู่ในบ้านเช่าหลังดังกล่าว. ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานสาธารณสุข อ.สุไหงโก-ลกมาทำการตรวจสอบตามกระบวนการคัดกรองโควิด-19 อย่างละเอียด
อย่างไรก็ตามแรงงานกัมพูชายังให้การอีกว่า ลักลอบข้ามมาจากรัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย โดยเดินทางมาตามแนวชายแดนด้วยรถยนต์ส่วนตัว และจ่ายค่านายหน้าคนละ 1,800 ริงกิต ประมาณ 12,600 บาท โดยมีนายหน้าชาวไทยมารับ โดยรถจักรยานยนต์ ครั้งละ 1 – 2 คน ใช้เวลานั่งรถมาประมาณ 1 ชั่วโมง มาส่งที่บ้านเช่าหลังดังกล่าวนี้ ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนักในประเทศมาเลเซีย ทำให้ทางการมาเลเซีย เข้มงวดตรวจค้นสถานประกอบการรวมถึงแหล่งชุมชนในหมู่บ้าน จึงทำให้แรงงานต่างด้าวทั้งหมดต่างพากันหลบหนี โดยมีการติดต่อผ่านนายหน้าชาวมาเลเซีย เพื่อลักลอบนำเข้ามายังประเทศไทย เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา
ซึ่งจากการตรวจสอบของสาธารณสุข อ.สุไหงโก-ลก พบว่าชาวกัมพูชาทั้ง 11 คน ไม่มีอาการไข้แต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ได้นำแรงงานทั้งหมดดำเนินการตามกฎหมายพร้อมทั้งได้มีการกักตัวดูอาการ 14 วันตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัส covid-19 ก่อนที่จะมีการผลักดันกลับประเทศต่อไป
นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ