ชาวบ้านบางสะพานน้อยมึน วัดดังสร้างโบสถ์ 25 ล้าน เสร็จนาน 13 ปี ใช้ประกอบพิธีสงฆ์ไม่ได้
วันที่ 9 มกราคม นายอุดม กิจเดช ไวยาวัจกร วัดเขาไชยราช ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากชาวบ้าน ต.ไชยราช พร้อมชาวบ้าน ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้ร้องเรียนผ่านหลายหน่วยงานใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ชุมพร เพื่อให้แก้ไขปัญหากรณี วัดเขาไชยราช ได้สร้างพระอุโบสถใช้งบประมาณกว่า 25 ล้านบาท สร้างเสร็จนานกว่า 13 ปีแต่ยังไม่มีความคืบหน้า โดยปัจจุบันวัดไม่สามารถผูกพัทธสีมาหรือ ปิดทองฝังลูกนิมิต เพื่อให้เป็นประอุโบสถที่ถูกต้อง และไม่สามารถประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ เนื่องจากพื้นที่วัดตั้งอยู่ในเขต อ.ปะทิว แต่พื้นที่สร้างโบสถ์ถูกขีดเส้นจาก จีพีเอส แบ่งแนวเขตเป็น จ.ประจวบคีรีขันธ์
นายอุดม กล่าวว่า เดิมวัดนี้เป็นสำนักสงฆ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ศาลาหมู่บ้าน ต่อมาได้รับอนุญาตแต่งตั้งเป็นวัดเมื่อ พ.ศ.2534 จากนั้นคณะกรรมการวัดพร้อมเจ้าอาวาสเริ่มสร้างอุโบสถ เมื่อ พ.ศ.2536 ใช้เวลาก่อสร้าง 13 ปี เสร็จเมื่อ พ.ศ. 2547 วัดจึงได้ไปขอให้ราชการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินบริเวณโบสถ์แต่เนื่องจากอยู่เขตติดต่อ 1 จังหวัด จึงไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ขณะที่มีการเดินสำรวจออกโฉนด 2 ครั้ง และมีการออกเอกสารสิทธิ์ให้ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงแล้ว วัดจึงไม่สามารถขอพระราชทานวิสุงคามสีมาและใช้พระอุโบสถในการประกอบพิธีทางศาสนา ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่รอยต่อเดือดร้อน ต้องไปประกอบพิธีที่วัดอื่นที่ห่างไกล
พระครูสุนทรธรรมชัย เจ้าอาวาสวัดเขาไชยราช กล่าวว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นแก่พระศาสนา เพราะวัดใช้งบ 25 ล้านปลูกสร้าง แต่ขณะนี้ใช้ประโยชน์ในกิจกรรมทางศาสนา เพียงวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และ วันอาสาฬหบูชาอีก แต่ประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบทไม่ได้ ลงสังฆกรรมฟังสวดปาฏิโมกข์ไม่ได้ เป็นความลำบากของพุทธศาสนิกชนและพระในวัด เนื่องจากปัญหาติดขัดเรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ที่ขัดแย้งกันในหลักการสถานที่ตั้งแห่งนี้อยู่ใน จ.ประจวบฯ ครึ่งหนึ่งอยู่ จ.ชุมพร แต่ทะเบียนบ้านวัดเป็นชุมพร ขอให้พระผู้ใหญ่ในหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
ด้านนายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ จ. ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้หารือกับ สส.เขต 2 พรรคเดียวกันในจ.ชุมพรแล้ว เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหา หลังจากที่ผ่านมาปัญหาแนวเขตทับซ้อนในพื้นที่ 2 จังหวัด ทั้งปัญหาเขตวัดที่ ต.ไชยราช และปัญหาที่ดินทับซ้อนกว่า 3,000 ไร่ ที่บ้านบางเบิด ต.ทรายทอง กับ ต.ปากคลอง อ.ปะทิว สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก ตั้งแต่ปี 2539 แต่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้ลุล่วง ล่าสุดได้สรุปปัญหาเสนอคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุเข้าวาระในการประชุม จากนั้นจะเชิญผู้ว่าราชการทั้ง 2 จังหวัดหรือผู้แทน ไปชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาพร้อมกัน หลังจากทราบว่าในอดีตที่ผ่านมาทั้ง 2 จังหวัดมีการนัดประชุมหลายครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้าในทางปฏิบัติ
พิสิษฐ์ รื่นเกษม ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รายงาน