น้ำท่วมนราธิวาส ขยายวงกว้างทั้งจังหวัด หนักสุดแถบลุ่มแม่น้ำโก-ลก
รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดบรรยากาศโดยทั่วไปยังคงมีฝนตกลงมาประปรายในบางพื้นที่อำเภอแต่ไม่หนักมากนัก เหมือน 6 วันที่ผ่านมา โดยพื้นที่ที่มีปริมาณฝนตกหนักสุดอยู่ในอำเภอศรีสาครโดยเฉลี่ย 521.40 ม.ม.รองลงมาอำเภอสุคิรินมีปริมาณฝนตกวัดได้ 519.80 ม.ม. ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมได้ไหลระบายครอบคลุมพื้นที่ มีน้ำท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชน 37 ชุมชน 64 ตำบล 401 หมู่บ้านทั้ง 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 20,631 ครัวเรือน รวม 74,236 คน โรงเรียนมีน้ำท่วมขังต้องประกาศปิดการเรียนการสอนฉุกเฉิน 34 โรง ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ถนนถูกน้ำท่วมขังได้รับความเสียหาย 30 สาย ในพื้นที่ อ.ระแงะ รือเสาะ แว้ง จะแนะและยี่งอ
นอกจากนี้สภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ยังสร้างความเสียหายต่อคอสะพาน ที่ถูกน้ำกัดเซาะ 3 แห่ง ในพื้นที่ อ.จะแนะ บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายเล็กน้อย 2 หลัง จากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากและดินสไลด์หล่นทับ ในพื้นที่ อ.จะแนะและยี่งอ มัสยิดถูกน้ำท่วมขัง 6 แห่ง ในพื้นที่ อ.สุคิริน จะแนะและเมืองนราธิวาส วัดและสำนักสงฆ์ถูกน้ำท่วมขัง 7 แห่ง ในพื้นที่ อ.ระแงะ สุไหงปาดี สุคิรินและเจาะไอร้อง ซึ่งเป็นผลพวงของแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสายบุรี บางนราและแม่น้ำสุไหงโก-ลก ล้นตลิ่ง
โดยพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังหนักสุดและยังถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติของ จ.นราธิวาส มีด้วยกัน 2 อำเภอ คือ แว้ง และสุไหงโก-ลก ที่มีแม่น้ำสุไหงโก-ลก ไหลผ่าน โดยมีปริมาณน้ำฝนและมวลน้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ไหลลงมาสมทบ จนมีปริมาณน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง 2 เมตร ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ตลอดแนวริมตลิ่ง โดยแยกเป็น อ.แว้ง 6 ตำบล 46 หมู่บ้าน มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 1 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชน 2 หมู่บ้าน คือ ม.4 และ ม.6 ต.ฆอเลาะ จำนวน 20 ครัวเรือน รวม 64 คน ไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพภายในอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านกีแยมัส
ส่วนพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก มีน้ำท่วมขัง 1 ตำบล 29 ชุมชน โดยจุดที่มีปริมาณน้ำท่วมขังหนักที่สุด คือ ชุมชนท่าประปา ชุมชนท่าเจ๊ะกาเซ็ง ชุมชนหัวสะพาน โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 1 ถึง 1.50 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว จำนวน 2 แห่ง คือ ที่อาคารเอนกประสงค์โรงเรียนเทศบาล 4 บ้านทรายทอง 7 ชุมชน จำนวน 67 ครัวเรือน รวม 233 คน และที่อาคารเอนกประสงค์สวนรื่นอรุณ จำนวน 10 ครัวเรือน รวม 48 คน
แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากสภาวะฝนได้หยุดตกหรือทิ้งช่วงอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์น้ำท่วมขังจะทรงตัวและค่อยๆลดระดับลง และกลับคืนสู่สภาวะปกติในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ นราธิวาส