กัมพูชา ประกาศไม่ส่งแรงงานตัดอ้อยเข้าไทย หลังโควิดระบาดรอบ2 ผู้ว่าฯให้ใช้แรงงานที่ตกค้างไปก่อน

หลังโควิดลดลง จะเร่งเจรจากับกัมพูชาอีกครั้ง ตร.สระแก้วยังเข้ม รวบแรงงานได้21 คนในแคมป์ พร้อมผู้ให้พักพิง

หลังจากที่ได้ถึงฤดูกาลหีบอ้อยของจังหวัดสระแก้ว ทำให้การต้องการแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาเข้ามาตัดอ้อยจำนวนมาก และทางรัฐมนตรีแรงงานที่ได้เดินทางมาจังหวัดสระแก้ว ได้พยายามเจรจาผ่อนปรนการนำเข้าแรงงานชาวกัมพูชา เข้ามาในพื้นที่สระแก้ว ตามคำเรียกร้องของผู้ประกอบการ แต่ก็มาติดเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโคโรนา 2019 รอบสอง เป็นเหตุให้ทางกัมพูชา ประกาศไม่ส่งแรงงานเข้ามา

ที่ห้องประชุมสระแก้ว ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว หลังจากที่ได้แถลงการสถานการณ์ของโควิด19 จบแล้ว ได้กล่าวถึงเรื่องที่ทางกัมพูชา ประกาศไม่ส่งแรงงานเข้าไทย โดยได้กล่าวถึงผลกระทบจากการที่ทางจังหวัดพระตะบอง และบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ออกประกาศงดส่งแรงงานตัดอ้อย เข้ามาในจังหวัดสระแก้ว เพราะกลัวแรงงานเหล่านั้น จะเข้ามาติดเชื้อโควิดจากประเทศไทย ว่า ในระยะนี้ได้เริ่มถึงฤดูการเปิดหีบอ้อยแล้ว และทางกัมพูชาได้ประกาศออกมานั้น สระแก้วเรายังสามารถใช้แรงงานชาวกัมพูชา ที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ จำนวน 7-8 พันคนร่วมกับเครื่องจักรกลไปก่อน และน่าจะเพียงพอ ส่วนระยะต่อไปที่ต้องใช้แรงงานเพิ่มขึ้นนั้น จะต้องขอเจรจากับทางฝ่ายกัมพูชา ให้ผ่อนปรนมาตรการห้ามดังกล่าว แต่ทั้งนี้ และทั้งนั้น ต้องรอไปอีกระยะหนึ่ง ให้การแพร่ระบาดของโรคในประเทศลดลงเสียก่อน จึงจะมีเหตุผลที่จะนำไปเจรจาได้ และตนเชื่อมั่นในมาตรการของรัฐบาลที่จะควบคุมการแพร่ระบาดได้ และเมื่อนั้นตนจะเร่งไปเจรจากับทางฝ่ายกัมพูชาทันที เพื่อไม่ให้ชาวไร่อ้อยต้องเดือดร้อน

ด้านพล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้เปิดเผยว่า พ.ต.อ.โสฬส เอี่ยมสอาด รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ได้เข้าจับกุม น.ส.ยุพิน สะละตรี ชาวไทย อายุ 44 ปี คนไทยที่ให้พักพิง พร้อมแรงงานต่างด้าว 21 คน ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา เป็นชาย 9 คน หญิง 8 คน เด็กชาย 3 คน และเด็กหญิง 1 คน ทั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดสืบสวนทราบมาว่าจะมีกลุ่มแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำงานที่ อ.เขาฉกรรจ์ โดยผ่านเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ พื้นที่เขตชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณป่ามัน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว มีรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน และรถยนต์กระบะไม่ทราบยี่ห้อ สีดำ ไม่ทราบทะเบียนอีกคัน มารับแรงงานดังกล่าวไปส่งทำงานที่ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว โดยจะพักอยู่ที่ป่าอ้อยเพื่อรอเวลา จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่บริเวณป่าอ้อย หมู่ 13 ต.หนองหว้า พบแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมาก จึงแสดงตัวเข้าจับกุมก่อนทำการคัดกรองและมีการประสานไปยังสาธารณสุข อ.เขาฉกรรจ์ ให้ช่วยมาทำการคัดกรองตรวจโรค พร้อมกับนำเครื่องฉีดพ่นน้ำยาเข้าทำความสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค “โควิด-19” พร้อมกับจะนำตัวส่งตรวจเพื่อเก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อว่าเป็นผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” หรือไม่ จากนั้นจะทำการผลักดันชาวชาวกัมพูชากลับสู่ประเทศต่อไป

ส่วนน.ส.ยุพิน ให้พนักงานสอบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ดำเนินคดีในข้อหา ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดให้บุคคลต่างด้าว (ชาวกัมพูชา) ที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดหมายให้พ้นจากการจับกุม, ความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และ ขัดคำสั่งจังหวัดสระแก้ว ที่ 3610/2563 เรื่องมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย

รายงานข่าวจาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ.สระแก้ว