“หลวงตาบุญชื่น” ถึง อ.ธาตุพนม จ.นครพนมแล้ว!!!! เดินธุดงค์เท้าเปล่านับ1,000 กิโลเมตร
ไม่รับปัจจัยเพราะไม่ต้องใช้ ทหาร ร.3 พัน.3 มาคอยอำนวยความสะดวกในการเดินในวันนี้
วันที่ 15 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณข้างถนนสาย มุกดาหาร-นครพนม บริเวณ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พบพระภิกษุสงฆ์สูงอายุ สะพายย่ามและบาตร กำลังเดินตามถนน อ.ธาตุพนม มุ่งหน้าไปทาง จ.นครพนม จึงเข้าไปสอบถามทราบว่าเป็นพระกำลังเดินธุดงค์ ทราบชื่อ หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฑโฒ อายุ 72 ปี อยู่ที่สำนักสงฆ์บ้านทุ่งนาเสาเล้า ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ออกเดินธุดงค์ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยมีญาติโยมรอทำบุญจำนวนมาก และเมื่อธุดงค์ผ่านในแต่ละพื้นที่ จะมีชาวพุทธนำอาหารมาใส่บาตร ค่ำไหนก็จะพักจำวัดที่เมรุหรือในวัด โดยมีญาติโยมที่ทราบข่าวมาคอยฟังธรรมตลอดเส้นทางและในวันนี้ก็เช่นเดียวกันเห็นภาพพี่ๆทหารจากหน่วยกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3( ร.3 พัน.3) ค่ายพระยอดเมืองขวาง จ.นครพนม มาคอยอำนวยความสะดวกในการเดินทางในครั้งนี้ด้วย
นำทีม ร.อ.กิตติกร จันทร์หอม เนื่องจากประชาชนมารอกราบระหว่างทางเป็นจำนวนมาก โดย หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฒิโท วัย 72 ปี พระธุดงค์สายป่า เกจิดังสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ธุดงค์เท้าเปล่ามุ่งหน้าไปวัดธาตุจำปา บ้านเสาเล้าใหญ่ ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม โดยไม่ขอรับปัจจัยตลอดเส้นทางเพื่อมุ่งจาริกธรรม ขณะนี้กำลังเดินเท้าระหว่างผ่าน จ.มุกดาหาร มุ่งหน้าเข้าสู่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยมีบรรดาญาติโยม พุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางมารอกราบไหว้ตลอดเส้นทาง บางรายมีการนำผ้ามาวางขวางให้หลวงตาบุญชื่นเหยียบเพื่อเก็บไว้บูชา ขณะที่หลวงตาบุญชื่น ใช้สบงม้วนเป็นท่อนเคาะศีรษะให้พรบรรดาผู้ที่มาเฝ้ากราบไหว้ตลอดเส้นทาง โดยไม่รับถวายปัจจัย ขอรับถวายเพียงน้ำเปล่า หลังตั้งมั่นปฏิบัติธรรมกรรมฐาน แสวงบุญจาริกธรรมตามรอยพระเกจิชื่อดัง หลวงปู่มั่น จนกลายเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาขณะนี้ และเหลือระยะทางอีกประมาณ 160 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดธาตุจำปา จุดหมาย คาดว่าประมาณวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้รวม 78 วัน ตามที่หลวงตาบุญชื่น ตั้งใจเอาไว้
สำหรับ หลวงตาบุญชื่น เดิมมีชีวิตพื้นฐานเกิดที่บ้านเสาเล้า ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เคยมีชีวิตครอบครัวมาก่อน และต่อสู้สร้างครอบครัวมาตลอด โดยในช่วงเป็นหนุ่ม หลวงตาเคยเป็นทหารเกณฑ์ และได้รับคัดเลือกไปสู้รบในยุคสงครามเวียดนาม ประมาณปี 2512 สังกัดพกองพันปืนใหญ่ จ.อุดรธานี และเคยผ่านการรับใช้ชาติเป็นทหารกองประจำการอยู่ในค่ายเป็นเวลา 2 ปี ก่อนปลดประจำการ ได้เหรียญทหารผ่านศึก กลับมาสร้างชีวิตครอบครัวแต่งงาน มีลูกทั้งหมด 4 คน จากนั้นเมื่อ ดูแลบุตรทั้งหมด สร้างครอบครัวหมดแล้ว จึงขอครอบครัวลาบวช เพราะต้องการหาสัจธรรมของชีวิต อยากเห็นความสงบในชีวิต เพราะชอบศึกษาธรรมมะ และชอบศึกษาหลักธรรมคำสอนของหลวงปู่มั่น จึงเข้าอุปสมบท ตัดทางโลกเข้าสู่ทางธรรม เมื่อปี 2552 ที่วัดบ้านเกิด
จากนั้นได้แสวงบุญเป็นพระสายป่าธรรมยุติ เดินธุดงค์ไปหลายที่ ไม่จำที่วัด ทุกปีจะไปจำวัดตามป่าเขา ก่อนนี้ไปจำพรรษาในถ้ำเตียง สิริขันธ์ บนเทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2559 ต้องการบำเพ็ญเพียร แสวงบุญ เดินธุดงค์ ตามรอยหลวงปู่มั่น ไม่ขอขึ้นรถ ไม่ต้องช่วยขนสัมภาระ ขอรับถวายเพียงน้ำเปล่า และไม่กลัวว่าจะเจ็บป่วย เนื่องจากสละทุกอย่าง แม้สังขาร เพราะต้องการเข้าถึงสัจธรรม และในปีนี้หลังออกพรรษา จะเดินจาริกธุดงค์ เหมือนทุกปีสำคัญที่สุดกิจของสงฆ์จะต้องไม่ขาด มีบิณฑบาต ทำวัดเช้าเย็น สวดมนต์ เจริญภาวนา และศึกษาธรรมมะ หากญาติโยมที่ต้องการสนทนาธรรม ก็ยินดี ในช่วงออกพรรษาก็จะเห็นหลวงบุญชื่นจาริกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อบำเพ็ญเพียร ถึงร่างกายจะชรา อีกทั้งมีโรคเลือดจาง แต่ไม่ได้กังวล เพราะสละทุกอย่างแล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามสังขาร ตราบใดเดินไหวยังจะแสวงบุญทุกปีตลอดไปจนกว่าจะจากโลกใบนี้ไป
ภาพ : ขอบพระคุณภาพจากเพจThatphanomNews /Kittikorn Chanhom
ข่าว : ไทบ้าน นิวส์ (พรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร)