นายอำเภอโก-ลก จับไม่เบื่อแรงงานต่างด้าวลอบข้ามตามช่องทางธรรมชาติอีกแล้ว
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. 63 ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ ที่ว่าการ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายพิมล จงรักษ์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง อ. สุไหงโก-ลก พ.ต.ต.เปรม คุ้มยิ้ม สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.สุไหงโก-ลก ร.อ.ณัฐพล คณะทอง ผบ.ร้อย ปชด.ที่ 3 และนายยูโซ๊ะ บินลีตี กำนันตำบลปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแรงงานต่างด้าว สัญชาติเวียดนาม โดยแยกเป็นผู้ชาย 2 คน และผู้หญิง 5 คน รวม 7 คน ที่ลักลอบเดินทางข้ามที่ช่องทางธรรมชาติ บ้านกวารอซีลา ม.7 ต.ปาเสมัส จากพื้นที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ข้ามแดนมายังฝั่งประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย สามารถจับกุมตัวได้เมื่อเวลา 23.00 น. ของคืนวันที่ 14 ธ.ค. 63 ที่ผ่านมา
โดยนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก ได้ใช้ล่ามสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์มือถือ สอบถามแรงงานต่างด้าวทั้ง 7 คน ในเบื้องต้นทราบว่า แรงงานต่างด้าวซึ่งเป็นเพศชาย 2 คน ลักลอบทำงานอยู่ในโรงงานประเทศมาเลเซีย ส่วนแรงงานต่างด้าวเพศหญิงทั้ง 5 คน ส่วนใหญ่ก็แอบลักลอบรับจ้างทำงานต่างๆ ซึ่งเป็นแรงงานจรที่พักอาศัยอยู่ร่วมกับคนรู้จัก และเมื่อทางการประเทศมาเลเซียเข้มงวด ด้วยการตรวจค้นสถานประกอบการต่างๆ รวมถึงแหล่งชุมชนในหมู่บ้าน ทำให้แรงงานต่างด้าวทั้ง 7 คน ต่างพากันหลบหนีโดยได้มีการติดต่อนายหน้าชาวมาเลเซีย เพื่อลักลอบนำพาเข้าประเทศไทยในการเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งได้มีการกักตัวดูอาการ 14 วัน ก่อนที่จะมีการพลัดดันกลับประเทศต่อไป
นอกจากนี้นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า ขณะเจ้าหน้าที่จับกุมแรงงานต่างด้าวทั้ง 7 คน ที่นายหน้าชาวมาเลเซียได้นำขึ้นเรือยนต์รับจ้างข้ามฟากจอดเทียบท่าช่องทางข้ามธรรมชาติฝั่งไทยนั้น นายหน้าชาวมาเลเซียเห็นเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย จึงได้กระโดดน้ำลงจากเรือและว่ายน้ำเข้าฝั่งกลับประเทศมาเลเซีย ส่วนหน้านายไทยคาดว่าไหวตัวทันและอาศัยความชำนาญพื้นที่สามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้อย่างหวุดหวิด ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือเอาไว้ได้ 1 เครื่อง ที่คาดว่าเป็นของนายหน้าคนไทย เพื่อนำไปตรวจสอบขยายผลในการทยอยเครือข่ายกลุ่มนายหน้า และจับกุมตัวมาดำเนินคดี เนื่องจากขณะนี้ประเทศมาเลเซียมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 รุนแรง ที่อาจจะนำมาแพร่ระบาดในประเทศไทย
นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ