“11กัมพูชาทนหิวไม่ไหว” ไม่กลัวโควิด ลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาฝั่งไทยกลางดึก ทพ.ร้อย 1205 รวบได้คาชายแดน
สารภาพทั้งน้ำตาฝั่งกัมพูชาไม่มีงานทำขาดรายได้ จึงจำเป็นต้องทำผิดกฎหมาย
ช่วงเช้ามืดวันนี้(13ธ.ค.63)หลังจากแม่ทัพภาค 1 เดินทางมาตรวจชายแดนพร้อมมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมกรมทกหารพราน 12 ทำการป้องกันการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานผิดกฎหมายจากฝั่งกัมพูชาเข้าในประเทศทางช่องทางธรรมชาติอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุดิ ผู้บังคับชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคัญกองร้อยทหารพราน 1205 ให้ประสานกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่งคงในพื้นที่ นำกำลังออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนและช่องทางธรรมชาติต่างๆ เพื่อป้องกันและจับกุมการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด
ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนดังกล่าว ทำการลาดตระเวนมาถึงทางเข้าบ้านดงงู เทศบาลตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พบบุคคลต้องสงสัยเดินอยู่ในป่าละเมาะซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 800 เมตร เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังเข้าปิดล้อมและเข้าทำการตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มบุคคลต้องสงสัยเป็นชาวกัมพูชาจำนวน 11 คนแยกเป็นชาย 10 คนและหญิง 1 คน อีกทั้งยังมีเด็กอีกด้วยโดยทั้งหมดไม่มีหนังสืออนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการคัดกรอง ตรวจวัดความร้อนตามร่างกาย และสอบสาวนอย่างละเอียด
ซึ่งจากการสอบสวนโดยผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชา ชาวกัมพูชาทั้งหมดรับสารภาพว่า ปัจจุบันในฝั่งกัมพูชาไม่มีงานทำ พวกตนจึงไม่มีรายได้ที่จะซื้อหาอาหารมาจุนเจือครอบครัว จึงชักชวนกันลักลอบข้ามชายแดนในเวลากลางคืนทางช่องทางธรรมชาติ โดยไม่มีใครนำพาลักลอบข้ามชายแดนแต่อย่างใด เพื่อจะเข้าไปรับจ้างทำงานในตลาดโรงเกลือ หวังจะได้เงินค่าจ้างส่งกลับไปให้ครอบครัวซื้ออาหารกินประทังชีวิต และไม่เกรงกลัวโควิด กลัวอดตายมากกว่า แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปตลาดโรงเกลือได้เพราะถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจับกุมเสียก่อน ส่วนผลการตรวจวัดความร้อนตามร่างกายนั้น ชาวกัมพูชาทั้งหมดมีความร้อนปกติ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวชาวกัมพูชาทั้งหมดส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน 12 ทำการผลักดันกลับประเทศกัมพูชาต่อไป
รายงานข่าวจากไตรรัตน์ มีวงษ์ จ. สระแก้ว