จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านแห่แจ้งความหลังถูกนายหน้าสาวโกงเงิน4ล้านกว่าบาท

จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านแห่แจ้งความหลังถูกนายหน้าสาวโกงเงิน4ล้านกว่าบาท

 

 

ชาวบ้านผู้เดือดร้อนที่โดนแก๊งนายหน้า 2 สาวตระเวน หลอกชาวบ้านว่าจะส่งไปทำงานฟาร์มเห็ดที่ประเทศแคนนาดา ชาวบ้านพากันหลงเชื่อสูญเงินไป 4.7ล้านบาท บางรายตกถึงหัวละ2.5แสนบาท ถึง 2.6 แสนบาท เงินหายคนไม่ได้บินเพราะโดนนายหน้า 2 หญิงสาวหลอกไปทั้ง 4 ตำบลในพื้นที่เขตอำเภอภูเขียว มีตำบลกวางโจน 2.ตำบลบ้านเพชร 3 ตำบลธาตุทองและตำบลผักปัง อำเภอภูเขียว จ.ชัยภูมิ ผู้เสียหายรวมทั้งสิ้น จำนวน 21 ราย และได้ทราบข่าวว่ามีผู้เสียหายที่โดน 2 สาว ตระเวนเดินสายหลอกเหยื่อไปยังอำเภอต่างๆอีกไม่ว่าจะเป็นอำเภอบ้านแท่นและอำเภอจัตุรัส สูญเสียเงินหลายล้านบาทเช่นกันแต่ทางผู้เสียหายยังไม่เข้าแจ้งความกัน

วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถาม นาง สาววารุณี แก้วรอด(แมว) อายุ 35 ปีบ้านเลขที่321หมู่ที่10ตำบลธาตุทอง อำเภอภูเขียว พร้อมกับผู้เสียหายได้พากันเข้าแจ้งความกับ ร้อยตำรวจเอก มารุต ชินทะนา(รอง.สว.สอบสวน สภ.ภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ หลังจากตนและพวกรวม 21คนได้โดน2สาวพราวเสน่ห์หลอกพวกตนจนหลงเชื่อว่าสามารถจะพาไปทำงานยังต่างประเทศ(แคนนาดา)ได้ รายได้ดีตกเดือนละ 5 หมื่นบาท/คนจึงได้พากันกู้หนี้ยืมสินทั้งในและนอกระบบเกือบทุกราย

เรื่องมีอยู่ว่าช่วงเดือนธันวาคมปลายปี61จนถึงปัจจุบัน63รวมจะครบ3ปีพอดี ส่วนมาก2สาวแก๊งต้มตุ๋นจะหลอกชักชวนชาวบ้านไปทำงานยังต่างประเทศหลอกเป็นคู่ๆที่สามีภรรยา(แต่งงานแล้ว)/ส่วนนายหน้าเป็นหญิงสาวจำนวน2คนทราบชื่อภายหลังชื่อนางสาว นุชรีพร เชื้ออ่อนอายุ49ปีบ้านเลขที่434หมู่ที่14ตำบลกวางโจน อำเภอภูเขียวจังหวัดชัยภูมิ และ 2.นางสาว พีทฌาญา คลังทอง(ที่ผู้เสียหายนำภาพมาชูให้ดูใส่เสื้อสีส้มในภาพ) อายุ 33 ปีบ้านเลขที่ 25 หมู่ที่1.ตำบลยางหวาย อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ ทั้ง 2สาวจะพากันขับรถเก๋งและปิ๊กอัพ ออกตระเวนหาเหยื่อไปตามอำเภอต่างๆภายในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ พบเหยื่อก็มาหว่านล้อมหลอกให้หลงชวนเชื่อว่า ตนสามารถวิ่งเต้นส่งคนงานไทยไปทำงานยังต่างแดนได้ ในตำแหน่งคนงานทำฟาร์มเห็ดประเทศแคนนาดา รายได้ดีตกเดือนละ5หมื่นบาท/เดือน สัญญา2ปี โดยอ้างว่าได้ผ่านกรมแรงงานมาเรียบร้อยแล้ว พวกตนจึงพากันหลงเชื่อเพราะอยู่ในช่วงโควิด19ไม่มีงานจะทำบางรายโดนทางบริษัทให้ออกจากโรงงาน กลับมาอาศัยอยู่บ้านก็ไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ทั้งไปกู้หนี้ ธกส.กู้หนี้นอกระบบดอกร้อยละ4/เดือน พวกตนเลยปักใจเชื่อจึงได้ชักชวนกันหวังจะไปขุดทองต่างแดนที่ประเทศแคนนาดา ค่าเดินทางตกหัวละ145,000บาท/คนแต่เอาจริงๆทั้ง2สาวแก๊งต้มตุ๋นได้โทรหาผู้เสียหายบอกว่าให้เตรียมตัวเตรียมสิ่งของพร้อมที่จะบินในวันที่ 5พฤศจิกายนเดือนที่ผ่านมาถึงเวลาจะบินก็โทรมาเรียกเก็บเงินเพิ่มอีกเป็นเงิน2.5แสนบาทและสามีเป็น2.42แสนบาทรวมเป็นจำนวนเงิน492,000บาท แต่ผู้เสียหายทั้ง21คนก็โดนหลอก

อีกไม่ได้บินทาง2สาวแก๊งต้มตุ๋นก็โทรบอกกับผู้เสียหายว่า ผิดพลาด ขอนัดเลื่อนไปเป็นวันที่18 พ.ย.เดือนที่ผ่านมา ให้เตรียมตัวแฟ็คสิ่งของเก็บเสื้อผ้าออกเดินทาง ทางผู้เสียหายต่างก็ดีใจมีการกินเลี้ยงผูกข้อไม้ข้อมือสั่งลากับญาติๆครอบครัวและลูกๆจะไปทำงาน2ปีจะกลับมานะ จึงตกลงพากันเหมารถบัสเพื่อที่จะไปนั่งเครื่องที่ท่าอากาศยานที่สนามบินสวรรณภูมิ แต่รอแล้วรอเล่าโทรหา2สาวแสบก็ไม่ติด ผู้เสียหายคิดว่าคงจะโดนถูกหลอกเหมือนครั้งแรกอีกแน่ๆ จบกันจึงรู้ว่าถูกหลอกจริงๆ ส่วนเรื่องเงินผู้เสียหายได้ส่งเงินสดให้กับแก๊ง2สาวแสบผ่านทางบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาเมืองชัยภูมิเป็นชื่อของนางสาวพีทฌาญา คลังทอง แต่เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบทางการเงินในบัญชีดังกล่าวแล้วปรากฏว่าเงินเหลือในบัญชีแค่หมื่นกว่าบาท ไม่ทราบว่าทั้ง2สาวโยกโอนไปที่ใดไม่มีใครทราบ ส่วนเพื่อนๆทั้ง4ตำบลก็โดนหลอกคล้ายๆกันรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4.7 ล้านบาทผู้เสียหายบางรายนำรถเข้าไฟแนนซ์ขายทองหนัก5บาทหวังจะบินไปทำงานฟาร์มเห็ดที่ประเทศแคนนาดา แต่ก็ฝันสลายทั้งกู้หนี้ยืมสินนอกระบบตายกันพอดี

ด้าน ร้อยตำรวจเอกมารุต ชินทะนา(รอง.สว.สอบสวน สภ.ภูเขียว)ได้แจ้งกับผู้เสียหายทั้ง21คนแล้วว่าทางเจ้าพนักงานสอบสวนได้นำผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มครั้งละ3คนจนกว่าจะครบ21คน ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว แต่ทั้ง 2 สาวผู้ถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงฉ้อโกงก็ยังไม่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนคาดว่าสัปดาห์หน้าทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะออกหมายจับและได้ตั้งข้อหาเพื่อดำเนินคดี1. ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานยังต่างประเทศได้

คำหอม ชุมชน  ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมมิ