สส.ภูมิใจไทย พาชาวบ้าน จังหวัดกาญบุกเกษตรทวงน้ำทำนาปรัง ขณะที่ รมว.เกษตรฯ ยืนยันจะอยู่เคียงข้างพี่น้องเกษตรกร พร้อมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในทุกพื้นที่ โดยไม่ขัดต่อมติ ครม.

สส.ภูมิใจไทย พาชาวบ้าน จังหวัดกาญบุกเกษตรทวงน้ำทำนาปรัง ขณะที่ รมว.เกษตรฯ ยืนยันจะอยู่เคียงข้างพี่น้องเกษตรกร

พร้อมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในทุกพื้นที่ โดยไม่ขัดต่อมติ ครม.

 

เมื่อเวลา13.00น นายยศวัฒ มาไพศาลสินสส .พรรคภูมิใจไทย ได้พาประชาชนจาก อ .ท่าม่วง และ อ . ท่ามะกา จ.กาญจนบุรีกว่า100คน เดินทางเข้าพบ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน. รมว.เกษตรฯเพื่อทวงถามกรณีการห้ามทำนาปรังในช่วงฤดูแล้งนี้

ทั้งนี้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงกับพี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรี ถึงความกังวลใจที่กรมชลประทานจะไม่สนับสนุนน้ำในการทำนาปรัง ว่า จากมติ ครม. ให้บริหารจัดการน้ำในช่วงหน้าแล้งและไม่ให้ทำนาปรังนั้น ทางกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน จึงต้องทำตามมติ ครม. แต่จะต้องหาแนวทางในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรด้วย จึงต้องขอนำเรียนในเบื้องต้นว่ามติ ครม. ถือเป็นกฎหมายที่ต้องบังคับใช้ทั้งประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายกรมชลประทานหาวิธีการแก้ไขและต้องมีคำตอบให้พี่น้องเกษตรกรโดยเร็วที่สุด ส่วนไหนที่สามารถดำเนินการได้จะให้ดำเนินการในทันที และให้จัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือให้พร้อมสำหรับเข้าไปดูแลพี่น้องเกษตรกรอย่างเต็มที่

“อยากให้พี่น้องเกษตรกรแต่ละพื้นที่ จัดเตรียมแหล่งกักเก็บน้ำ เพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งจะมอบหมายให้กรมชลประทานเข้าไปช่วยเติมน้ำให้ และหากสามารถเพิ่มพื้นที่แหล่งกักเก็บน้ำได้ ก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการ นอกจากนี้ จะขอรับเอาข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะจากพี่น้องเกษตรกรเข้าไปหารือกับนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป จึงขอยืนยันกับพี่น้องเกษตรกรว่าเราจะทำให้ดีที่สุด เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องเกษตรกร” นายเฉลิมชัย กล่าว

ด้าน นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาการแทนอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สิ่งที่กรมชลประทานสามารถดำเนินการได้ในทันที คือ ในช่วงเวลานี้ยังมีแผนการส่งน้ำตามปกติ ตามแผนการส่งน้ำนาปี จึงขอให้เกษตรกรสำรองน้ำในพื้นที่ให้เต็มพิกัด ถ้าติดขัดอะไรจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลให้เรียบร้อย นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังมีมาตรการต่าง ๆ เข้ามาช่วงเหลือ เช่น การส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย หรือการส่งเสริมการทำประมงและการเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น ซึ่งโครงการต่าง ๆ เหล่านี้ จะเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในช่วงสถานการณ์ภัยแล้งได้