กองทัพไทย นำสื่อมวลชน ดูภารกิจหน่วยงานของกองทัพ ในโครงการประชาสัมพันธ์สนับสนุนการจัดระเบียบชายแดน4จังหวัด

กองทัพไทย นำสื่อมวลชน ดูภารกิจหน่วยงานของกองทัพ

ในโครงการประชาสัมพันธ์สนับสนุนการจัดระเบียบชายแดน4จังหวัด

 

เมื่อวันที่ ๑-๓ ธ.ค. ที่ผ่านมา  ทีมข่าวได้มีโอกาส ร่วมกิจกรรมของสำนักประชาสัมพันธ์  กรมกิจการพลเรือนทหาร  กองบัญชาการกองทัพไทย  ที่นำสื่อมวลชนลงพื้นที่4 จังหวัด ไปในโครงการประชาสัมพันธ์สนับสนุนการจัดระเบียบชายแดน โดยมีพลตรี ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ กรมกิจการพลเรือนทหาร พร้อมด้วยพันเอกอิทธิพล ปิ่นพรหม ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักประชาสัมพันธ์กรมกิจการพลเรือนทหาร และพันเอก ภีมศักดิ์ บุญกระพือ รองผู้อำนวยการ กองประชาสัมพันธ์ สำนักประชาสัมพันธ์ กรมกิจการพลเรือนทหาร ร่วมเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ด้วย

สำหรับในจุดแรกเรามาเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน จังหวัดชลบุรี ซึ่งเราได้ร่วมรับฟังบรรยายสรุปถึงภารกิจของเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฎิบัติการลาดตระเวนและปฏิบัติการพิเศษตามที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยนี้ถือเป็นหน่วยงานที่ได้รับการฝึกพิเศษเพื่อการรบบุกยึดหัวหาด โดยการยกพลขึ้นบกจากเรือในทะเลขึ้นสู่ฝั่ง ทำให้นาวิกโยธินเป็นหน่วยรบแรกๆ ที่เข้าสู่สนามรบแนวหน้ามีอัตราการเสียชีวิตสูงอยู่เสมอ หน่วยนี้มีขีดความสามารถมากมายอาทิเช่น ลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก ลาดตระเวนระยะใกล้ไกลปฏิบัติการพิเศษด้วยการใช้สุนัขทหารในการตรวจค้นวัตถุระเบิด ตรวจค้นยาเสพติด รวมทั้งฝึกหรือให้คำแนะนำช่วยเหลือทหารประจำการและกำลังประชาชนในเทคนิคการลาดตระเวนการปฎิบัติการพิเศษด้วย

อีกทั้งวันนี้ยังได้มีโอกาสชมการสาธิต การปฎิบัติการสุนัขทหาร ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการฝึกสุนัขทหารให้ปฏิบัติตามคำสั่ง การตรวจค้นระเบิด การแสดงข้ามเครื่องกีดขวาง ,ชมการสาธิตการฝึกดำรงชีพในป่าเพื่อให้สามารถมีชีวิตดำรงอยู่รอดปลอดภัย สามารถหาอาหารจากธรรมชาติ สังเกตพืชชนิดใดทานได้หรือไม่ได้ ,การหาน้ำดื่มจากธรรมชาติ การหาไฟ ก่อไฟเพื่อประกอบอาหาร จากนั้นได้ชมการฝึกสะเทินน้ำสะเทินบกที่เป็นการโจมตีที่เริ่มจากทางทะเลโดยทางเรือและกำลังรบยกพลขึ้นบกพร้อมเข้าโจมตีข้าศึกบนชายฝั่ง

ทหารนอกจากจะรักษาความมั่นคงของชาติแล้วยังมีหน้าที่มากมายหลายอย่าง  และยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เช่น การบรรเทาสาธารณภัยเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ   สำหรับอีกหน่วยงานที่เราได้มาเยี่ยมชม คือ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 14 สำนักงานพัฒนาภาค1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด มีพื้นที่รับผิดชอบ4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ,ระยอง,จันทบุรีและตราด มีภารกิจในการพัฒนาเพื่อความมั่นคง ส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาอาชีพด้านเกษตรและสหกรณ์และด้านช่างฝีมือ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรให้กับกำลังพลทหาร เพื่อความมั่นคงและพัฒนาประเทศ โดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 14 ได้ดำเนินงานพัฒนาช่วยเหลือประชาชนตาม 8 แผนงานหลักของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้แก่ แผนงานก่อสร้างเส้นทางคมนาคม นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการนำความเจริญเข้าไปสู่ท้องถิ่น ,แผนงานส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ ,แผนพัฒนาแหล่งน้ำ ,งานพัฒนาชุมชนและสาธารณูปการ ,งานสาธารณสุขงานการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมงานจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์ ,งานสังคมสงเคราะห์การ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

เมื่อรับฟังบรรยายสรุปถึงภารกิจของหน่วยแล้ว เราก็ได้ชมการปฎิบัติงานการบรรเทาสาธารณภัยในการออกช่วยเหลือประชาชนในยามเกิดภัยพิบัติ ซึ่งหน่วยงานนี้มีการฝึกด้านการบรรเทาสาธารณภัยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่ตลอด เพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือในทุกเหตุการณ์ ต่อจากนั้นไปชมสาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำและเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบนพื้นที่ 14 ไร่ ซึ่งวันนี้เราก็ได้เยี่ยมชมในส่วนของ “โคกหนองนาโมเดล”  การจัดการพื้นที่เพื่อทำการเกษตรแบบผสมผสานตามศาสตร์พระราชาร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยในพื้นที่มีการจัดระบบน้ำเพื่อการเกษตรอย่างสมดุล โดยการส่งน้ำจากอ่างใหญ่ไปอ่างเล็ก และจากอ่างเล็กไปสู่หลุมขนมครก ด้วยระบบคลองไส้ไก่ จากนั้นเยี่ยมชมพื้นที่การเรียนรู้ด้านการประมง ชมการผสมเทียมปลา

จากนั้นเราเดินทางต่อไปยัง หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 182 บ้านหาดเล็ก เพื่อฟังบรรยายสรุปภารกิจของหน่วยในการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยให้ความสำคัญกับการปฎิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัดและก่อนที่จะไปจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก เราไปโรงเรียนบ้านหาดเล็ก ซึ่งเป็นโรงเรียนติดชายแดนที่มีนักเรียนจากฝั่งประเทศกัมพูชามาเรียนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ทางโรงเรียนมีการเรียนการสอนและการป้องกันตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เริ่มตั้งแต่การตรวจคัดกรองตั้งแต่หน้าโรงเรียน ก่อนเข้าโรงเรียนจะต้องล้างมือ การเข้าแถวเว้นระยะห่าง ในส่วนการเรียนการสอน เด็กนักเรียนกัมพูชาจะใช้วิธีการเรียนออนไลน์ โดยดูสื่อการเรียนการสอนตามช่องทางที่คุณครูกำหนด และก็ได้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างทหารและโรงเรียนอันเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งทหารถือเป็นกำลังสำคัญให้ความช่วยเหลือดูแลโรงเรียนด้วยดีตลอดมา

จากนั้นไปยังจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ชมการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19  โดยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานทั้ง เจ้าหน้าที่ทหาร , เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง , เจ้าหน้าที่ศุลกากร และสาธารณสุขจังหวัด  ซึ่งมีการตรวจคัดกรองบุคคลที่ผ่านเข้าออกอย่างเข้มงวด

เดินทางต่อมายังหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี เป็นหน่วยที่มีภารกิจในการป้องกันชายแดนไทย – กัมพูชา  รักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน  ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย  จัดระบบป้องกันเพื่อจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน  ซึ่งหลังจากฟังบรรยายสรุปเสร็จแล้ว เราได้ออกมาดูการปฎิบัติงานบริเวณจุดสกัดที่มีการตรวจการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ,การตรวจจับสินค้าหลบหนีภาษี

ดูการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของแรงงานต่างด้าวที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน  , ชมการปฏิบัติการหมู่บ้านป้องกันตนเองที่เจ้าหน้าที่ทหาร ส่งเสริมให้ความรู้ ให้คำแนะนำกับประชาชนในพื้นที่ตามแนวชายแดนจนเป็นหมู่บ้านป้องกันตนเอง ให้เอาตัวรอดจากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยได้ โดยวันนี้เป็นการสาธิตจำลองสถานการณ์มีวัตถุระเบิดตกกลางหมู่บ้านโดยประชาชนได้ปฎิบัติตามแผน แล้วรีบวิ่งไปหลบที่หลุมหลบภัยหมู่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนได้มีการฝึกซ้อมอยู่ตลอดเวลา เป็นการร่วมใจกันปกป้องประเทศเมื่อมีภัย

หลังจากนั้นเยี่ยมชมคลองประชารัฐตามโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมความมั่นคง เป็นการร่วมมือกับหลายภาคส่วนในการขุดลอกแหล่งน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตร

 

ในจุดสุดท้ายเรามากันที่ กรมทหารพรานที่ 13 หน่วยเฉพาะกิจ คลองหาด จังหวัดสระแก้ว ที่รับผิดชอบ 4 อำเภอได้แก่ อ.คลองหาด ,อ.วังน้ำเย็น อ.วังสมบูรณ์ , ต.ทับพริก อ.อรัญญประเทศ  โดยมีภารกิจในการดูแลชายแดน มีการจัดระเบียบพื้นที่และแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในพื้นที่ชายแดน ,มีการเฝ้าตรวจป้องกัน มีการตรวจจับกุมสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว ,มีมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ โควิด-19 อย่างเข้มงวดและจากที่เราได้ทราบข่าวอยู่ทุกวัน ว่ามีผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมาตามช่องทางธรรมชาติอยู่ตลอด  วันนี้เราก็ได้มีโอกาสมาดูถึงมาตรการเข้มข้นในการป้องกันแรงงานต่างด้าวไม่ตรวจโควิด-19 หนีเข้าประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่มีการติดตั้งเครื่องกีดขวางลวดหนาม บริเวณตามแนวชายแดนช่องทางตามธรรมชาติ และมีการร่วมประชาสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา ในการให้ความร่วมมือสกัดกั้นแรงงาน

ตลอดจนชมการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ในเขตรับผิดชอบทั้งการใช้รถจักรยานยนต์และการเดินเท้าในการลาดตระเวน  และในการลงพื้นที่ครั้งนี้ก็ได้เห็นหน้าที่ภารกิจอันมากมายหลายด้านของทหาร ที่ปฎิบัติงานอยู่แนวชายแดน  พวกเขานั้นเป็นรั้วของชาติที่พร้อมปกป้องประเทศและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ในทุกโอกาส  ทีมข่าวต้องขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทหารทั่วประเทศด้วยค่ะ

 

You May Have Missed!

1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
องค์การสวนสัตว์ฯ เปิดบ้านต้อนรับพันธมิตรทำกิจกรรมร่วมกับ “หมูเด้ง” ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
บพข. เปิดผลงานวิจัย 5 ปี พลิกโฉมการท่องเที่ยว – เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ยกระดับสู่ความยั่งยืน
1 Minute
เศรษฐกิจ
“อลงกรณ์ พอใจ” เอฟเคไอไอบิสซิเนส ฟอรั่ม  ประสบความสำเร็จเชื่อมโยงธุรกิจไทย-เกาหลี บรรลุข้อตกลงจับคู่ธุรกิจการลงทุนกิจการเทคโนโลยีชีวภาพ-สุขภาพ-สิ่งแวดล้อมพร้อมขยายความร่วมมือกับโกลบอลESG
0 Minutes
ข่าวภูมิภาค
พิธีทำบุญสารทเดือนสิบ ตามโครงการเสริมสร้างจริบธรรมคุณธรรม เสริมสร้างความรักชาติ และเสริมสร้างวินัยแก่คนในชาติ ของกรมการปกครอง