DGA จับมือร่วมพันธมิตรสร้างมิติใหม่การศึกษาไทย นำร่องเปิดใช้บริการ Digital Transcript ปี ’63 พร้อมดันสู่ Digital Transformation เต็มรูปแบบ

DGA จับมือร่วมพันธมิตรสร้างมิติใหม่การศึกษาไทย นำร่องเปิดใช้บริการ Digital Transcript ปี ’63

พร้อมดันสู่ Digital Transformation เต็มรูปแบบ

 

 

สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA พร้อมเดินหน้าผลักดันการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลให้ครอบคลุมทุกมิติยกระดับสังคมไทยสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยจับมือกับพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) และ คณะทำงานกำหนดมาตรฐานการจัดทำเอกสารสำคัญทางการศึกษาในรูปแบบดิจิทัล (Digital Transcript) จัดงาน “แถลงข่าวนำร่องการให้บริการ Digital Transcript” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเดินหน้าใช้ Digital Transcript เข้ามาตอบโจทย์สำคัญในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน อำนวยความสะดวกให้นิสิต/นักศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ลดขั้นตอนการรับสมัครเข้าทำงาน หรือรับสมัครเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องเสียเวลาในการตรวจสอบ Transcript ในรูปแบบกระดาษ ซึ่งถือเป็นปัญหาและความยุ่งยาก (Pain Point) และมีค่าใช้จ่ายในการจัดทำและจัดเก็บเอกสารสำคัญทางการศึกษาในรูปแบบกระดาษโดยเฉพาะการทำสำเนาเอกสารซ้ำหลายครั้ง

ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำการยกระดับการศึกษาไทยเข้าสู่ยุค Digital Transformation อย่างเป็นรูปธรรม ศ.ดร.นพ. สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชนนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารงานและการให้บริการนิสิตนักศึกษา ประชาชน และหน่วยงานต่าง ๆ และยินดีสนับสนุนส่งเสริมโครงการ Digital Transcript อย่างเต็มที่ สำหรับเป้าหมายของโครงการ Digital Transcript เบื้องต้นอยากให้มหาวิทยาลัยที่มีความพร้อมนำร่องให้บริการให้ได้ภายในสิ้นปีการศึกษา 2563 คือ นิสิตนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษานี้จะได้รับ Transcript ในรูปแบบดิจิทัลที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการสมัครงานหรือเรียนต่อได้ทันที และคาดหวังว่าจะสามารถขยายโครงการนี้ไปยังมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่สังกัดกระทรวงอื่น ๆ ในอนาคต

ด้าน ดร. สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) เปิดเผยว่า “โครงการ Digital Transcript ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการรวมพลังผลักดันการศึกษาไทยก้าวสู่ยุค Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ สามารถช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างมาก เช่น สำหรับนิสิต/นักศึกษา จะสามารถเข้าถึง Digital Transcript ของตนเองได้ผ่านช่องทางดิจิทัล ทุกที่ ทุกเวลา ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังสถานศึกษาเพื่อขอ Transcript ฉบับใหม่หรือค่าใช้จ่ายในการรับเอกสารทางไปรษณีย์ ด้านหน่วยงานที่ต้องใช้ Transcript ทั้งภาครัฐและเอกชน ก็จะลดภาระและขั้นตอนในการตรวจสอบความถูกต้องจริงแท้ (Authenticity) ของเอกสารสำคัญทางการศึกษาได้ และมีความเชื่อมั่นได้ว่า Digital Transcript ที่มี Digital Signature เป็นเอกสารจริงที่ออกโดยมหาวิทยาลัย และไม่ถูกปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขโดยผู้ที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ โดยสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเอกสารด้วยตนเองเพียงใช้ซอฟต์แวร์พื้นฐาน และสถาบันอุดมศึกษาที่ออก Digital Transcript จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการจัดทำและจัดเก็บเอกสารรูปแบบกระดาษลงได้ในระยะยาว”

DGA ในฐานะหน่วยงานกลางที่มีหน้าที่ในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลได้ตระหนักถึงประโยชน์ที่ทุกฝ่ายจะได้รับ จึงได้เร่งเดินหน้าร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อนำร่องโครงการ Digital Transcript เปลี่ยนแปลงรูปแบบการออกเอกสารจากรูปแบบกระดาษเป็นรูปแบบดิจิทัลที่มีลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) สนับสนุนการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทสำคัญในการกำหนดและประกาศมาตรฐานข้อมูลสำหรับการจัดทำ Digital Transcript เพื่อใช้แลกเปลี่ยนเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานผ่านระบบดิจิทัล

 

โครงการ Digital Transcript นอกจากอำนวยความสะดวกแก่นิสิต/นักศึกษา และประชาชน ช่วยป้องกันการปลอมแปลงวุฒิการศึกษา และลดภาระของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเอกสารสำคัญทางการศึกษาแล้ว ยังนับเป็นการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลครั้งสำคัญของประเทศอีกด้วย ทั้งการปรับเปลี่ยนวิธีคิด (mindset) ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรม (culture) และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (behaviour) ของสังคมให้ยอมรับและคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้าง ตรวจสอบ และใช้งานเอกสารสำคัญทางการศึกษาในรูปแบบดิจิทัลหรือ Digital Transcript ได้อย่างครบวงจร ซึ่งจะกลายเป็นต้นแบบ หรือ Model สำหรับการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลในประเด็นหรือมิติอื่น ๆ ของภาครัฐต่อไป”

นางสาววิริยา เนตรน้อย ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินการปรับปรุงกระบวนการขั้นตอนการให้บริการของหน่วยงานของรัฐเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การผลักดันการตราพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 การผลักดันให้หน่วยงานของรัฐยกเลิกการเรียกรับสำเนาเอกสารราชการจากประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2562 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการออกเอกสารหลักฐานของทางราชการในรูปแบบดิจิทัลโดยมุ่งเน้นเอกสารที่มีผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนและผู้ประกอบการ เช่น ใบอนุมัติ ใบอนุญาต ใบรับรองต่าง ๆ ซึ่ง Digital Transcript ของมหาวิทยาลัยอยู่ในกลุ่มนี้