ทหารลุยน้ำตรวจคนชราหลังไม่สามารถพบหมอตามนัด ส่วน ปภ.ลงพื้นที่หาแนวทางแก้น้ำท่วม
รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุด หลังจากฝนได้หยุดตกเป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน แต่ในช่วงคืนที่ผ่านมาก็ได้มีฝนตกลงมาซ้ำอีกครั้งแต่เบาบางลง ส่งผลทำให้แม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา สายบุรีและสุไหงโก-ลก มีระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงแม่น้ำสุไหงโก-ลก เท่านั้น ที่ยังคงมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งโดยสูงกว่าระดับตลิ่งประมาณ 60 ซ.ม. ซึ่งยังส่งผลทำให้ 5 ชุมชน ซึ่งตั้งอยู่เชตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ ชุมชนท่าชมพู ชุมชนท่าเจ๊ะกาเซ็ง ชุมชนหัวสะพาน ชุมชนท่ากอไผ่ โดยเฉพาะชุมชนท่าประปา ซึ่งถือว่ามีปริมาณน้ำท่วมขังสูงสุด โดยอยู่ในระดับ 30 ถึง 50 ซ.ม.มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 20 ครัวเรือน จากผลพวงของปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ได้ทะลักผ่านท่อระบายเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน แม้ว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก จะคลี่คลายสู่สภาวะปกติเวลาอันใกล้นี้ แต่ปริมาณน้ำในพื้นที่ทั้ง 5 ชุมชน ที่ท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนก็ไม่สามารถที่จะลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลกได้ เนื่องจากพื้นที่ทั้ง 5 ชุมชนปลูกสร้างในที่ราบลุ่มลักษณะคล้ายท้องกระทะ ต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเครื่องสูบน้ำมาระบายออกลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลกต่อไป
และจากสภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนทั้ง 5 ชุมชน เป็นเวลา 4 วัน ส่งผลทำให้ประชาชนเริ่มเจ็บป่วย จากอาการไข้หวัด น้ำกัดเท้า โดยเฉพาะคนชราซึ่งต้องมีโรคประจำตัว ซึ่งต้องพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตามนัด แต่ไม่สามารถเดินทางไปพบแพทย์ เนื่องจากบ้านพักถูกน้ำท่วม พ.อ.ภูมิ โพพี ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 พ.ท.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 พ.ต.ท.ธีระโชติ ปฐมวณิชกะ ผบ.ร้อย ตชด.447 พ.ต.ธีรศานต์ ตระกูลดี รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 นายกิตติพนธ์ วุฒิวงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส และหน่วยแพทย์สนาม ฉก.นราธิวาส 30 ได้ร่วมกันลงพื้นที่ชุมชนท่าประปา เพื่อตรวจสุขภาพคนชรา จำนวน 6 คน โดยเฉพาะนางปาตีเมาะ เจ๊ะมูดอ อายุ 69 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคเบาหวาน จนขาทั้ง 2 ข้างไม่มีแรงจนไม่สามารถเดินได้ โดยแพทย์วัดความดันและแจกเวชภัณฑ์ยาสามัญประจำบ้าน รวมทั้งได้แนะนำวิธีการใช้ชีวิตของผู้ป่วยทั้ง 6 ราย พร้อมทั้งได้มีการแจกข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่ม
และก่อนที่จะเดินทางกลับนายกิตติพนธ์ วุฒิวงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส พ.อ. พ.อ.ภูมิ โพพี ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 พ.ท.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 และพ.ต.ท.ธีระโชติ ปฐมวณิชกะ ผบ.ร้อย ตชด.447 ได้ร่วมกันดูสภาพของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่ไหลเชี่ยวกราก พร้อมพูดคุยกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนดังกล่าว และพบว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย มวลน้ำที่ท่วมขังชุมชนทั้ง 5 แห่ง ไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลก ได้ตามธรรมชาติหลังจากมีการก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำริมตลิ่ง โดยนายกิตติพนธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส แจ้งแก่ชาวบ้านว่า ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส คงต้องนำเครื่องสูบน้ำมาระบายออก ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว คงต้องมีการปรับปรุงในเรื่องของท่อระบายน้ำที่มีฝาปิดอัตโนมัติจากแรงดันน้ำธรรมชาติ ที่ต้องมีการประชุมปรึกษาหารือกันหลายฝ่ายรวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชน เพื่อหาทางออกโดยที่ไม่กระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนเป็นหลัก
ด้านนายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นราธิวาส มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 9 อำเภอ 34 ตำบล 115 หมู่บ้าน 3 ชุมชน โดยอำเภอจะแนะ ระแงะ บาเจาะ สุไหงปาดี ตากใบ ยี่งอ เจาะไอร้องและอำเภอเมืองนราธิวาส สถานการณ์ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ยกเว้น อ.สุไหงโก-ลก ที่ยังคงมีสภาวะน้ำท่วมขัง โดยมีผู้ประสบภัยทั้งสิ้น 6,183 ครัวเรือน รวม 26,165 คน