สถานีวิทยุม.ก.ผนึกคณะเกษตรกำแพงแสน เตรียมเปิดห้องออกอากาศแห่งที่ 2 ชื่อ”เคอร์พลัส เกษตรอภิรมย์”ในวันที่ ธ.ค.63 นี้
สถานีวิทยุม.ก.ผนึกคณะเกษตร ม.เกษตรฯ กำแพงแสน เตรียมเปิดห้องออกอากาศแห่งที่2 ภายใต้ชื่อ”เคอร์พลัส เกษตรอภิรมย์”หวังเชื่อมเครือข่ายการสื่อสารแบบเรียวไทม์ ให้เกษตรกรได้รับข้อมูลข่าวสารได้ทันท่วงที
วันที่ 30 พ.ย.63 ผศ.อนุพร สุวรรณวาจกกสิกิจ ผู้อำนวยการใหญ่สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หรือสถานีวิทยุม.ก.กล่าวถึงความร่วมมือกับคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนในการเปิดห้องออกอากาศแห่งที่2 ภายใต้ชื่อ”เคอร์พลัส เกษตรอภิรมย์”ว่าเป็นอีกก้าวของความร่วมมือในการเชืองเครือข่ายเพิ่อถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของสถานีในการสนองนโนบายรัฐบาลและมหาวิทยาลัยที่ต้องการมุ่งเป้าให้เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน
“ที่นี่จะเป็นห้องออกอากาศแห่งที่2 ของสถานี ทุกอย่างเหมือนกับที่บางเขน ต่อไปอาจารย์ นักศึกษาหรือวิทยากรที่ออนแอร์ในรายได้ไม่ต้องมาที่บางบางเขน ใช้ห้องส่งที่นี่ได้เลย ในอนาคตเราก็จะขยายห้องส่งแบบนี้ไปยังวิทยาเขตอื่น ๆ ต่อไป ทั้งวิทยาเขตศรีราชาและวิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติสกลนคร”ผศ.อนุพรเผย
ขณะที่ รศ.ดร.ปภพ สินชยกุล คณบดีคณะเกษตร ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนกล่าวว่าการร่วมมือกับสถานีวิทยุม.ก.ครั้งนี้ เป็นการสร้างสื่อสร้างสรรค์ด้านเกษตรครบวงจร เป็นการทำงานแบบเรียวไทม์ให้เกษตรกรได้รับข้อมูลข่าวสารด้านเกษตรได้ทันเวลา
ขณะเดียวกันยังสามารถใช้เป็นสถานที่ฝึกงานของนิสิตภาควิชาส่งเสริมและนวัตกรรมการเกษตรและการเรียนรู้ทางวิชาการในเรื่องการเรียนการสอนของคณาจารย์ทั้งหลายเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้รับข่าวสารที่ตรงกันและทันเวลามีการเชื่อมโยงการสื่อสารสองทางและเรียวไทม์สามารถสื่อสารถึงกันได้ระหว่างอาจารย์ นิสิตและเกษตรกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่
“จากนี้ไปเราจะมีการทำงานร่วมกันตลอดเวลาระหว่างอาจารย์ นิสิตและเกษตรกรกลุ่มเป้มาหมายในพื้นที่ โดยใช้วิทยุม.ก.เป็นตัวเชื่อมโครงข่าย มิติใหม่ด้านการเกษตรของเราก็จะเกิดขึ้นที่กำแพงแสนด้วยความร่วมมือของสถานีวิทยุม.ก.ในการจัดทำเคอร์พลัสเกษตรอภิรมย์ร่วมกับคณะเกษตร กำแพงแสน”
คณบดีคณะเกษตร กำแพงแสนเผยถึงความพร้อมของข้อมูลในการนำเสนอผ่านรายการของสถานีฯว่า คณะเกษตร กำแพงแสน มีวิทยาการเกษตรครบวงจร เรามีภาคการผลิตที่แข็งแรงมากกว่า 40 ปี มีมาตรฐานสินค้าเกษตร ทั้งจีเอพี(GAP)และจีเอ็มพี(GMP) ตลอดจนเราได้รับการรับรองจากไอฟอมในการรับรองความปลอดภัยนระดับอินทรีย์
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่จะทำให้การตลาดที่สมบูรณ์แบบในลักษณะชองชุมชนหรือคอมมูนิตี้ที่มีความจุดมุ่งหมายที่ตรงกันและการรวมตัวกันทำงานทำให้เกิดความสมบูรณ์แบบ มีความเข้าใจกัน มีจุดหมายตรงกันทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน หากชุมชนที่มีความสมบูรณ์แบบเช่นนี้ ก็จะเป็นผลดีต่อชุมชนโดยรวม
“เรามีแปลงสาธิตขนาดใหญ่ ถ้าเกษตรกรอยากจะมาเรียนรู้ระบบจีเอพี(GAP)ก็สามารถมาเรียนที่นี่ได้ เรามีแบบครบวงจรเลยตั้งแต่การผลิต การแปรรูป การทำมาตรฐานสินค้า ไม่ว่าจีเอพี(GAP)หรือออแกนนิก(organic)ก็ตาม รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันและมาศึกษาวิธีการทำการตลาดไปพร้อม ๆ กันได้ทั้ง 4 กลุ่มงาน เพราะฉะนั้นเกษตรกรสามารถยกระดับเป็นผู้ประกอบการได้ โดยใช้วิทยาการของเราหรือมาปรึกษาเราได้ตลอดเวลา”
รศ.ดร.ปภพ ย้ำด้วยว่า ในอนาคตนั้นเกษตรกรทุกคนจะต้องยกระดับตัวเองสู่การเป็นผู้ประกอบการถึงจะอยู่รอดได้ ซึ่งจำเป็นจะต้องเรียนรู้กระบวนการอย่างน้อย 4 อย่างด้วยกัน ประกอบด้วย เรียนรู้การผลิตพืชและสัตว์ การรู้การทำมาตรฐานการผลิตทั้งหลาย เรียนรู้การแปรรูปหรือทำผลิตภัณฑ์ออกมาด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ และสุดท้ายเรียนรู้การทำตลาด และทั้ง 4 อย่างจะต้องทำไปพร้อม ๆ กัน จึงจะประสบความสำเร็จได้
“เราจะนำทั้ง 4 องค์ประกอบมาประยุกต์ในการเรียนการสอนเพื่อทำงานวิจัยแล้วตอบกลับเข้าไปหาบุคคลเหล่านั้น เพราะว่าการทำงานแบบนี้ทำให้เกิดการประยุกต์โจทย์การพัฒนาอย่างแท้จริงร่วมกันแล้วก็สามารถก่อการเชื่อมโยงได้อย่างยั่งยืนในอนาคต เราเชื่อมกันเป็นวงจร เรามีหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ เรามีผู้ประกอบการ รวมทั้งเกษตรกรในพื้นที่ที่จะเชื่อมโยงกับคณะเกษตร กำแพงแสนทั้งคณะ เพราะเรามีวิทยาการเกษตรทั้งหมดพร้อมที่จะให้บริการ รวมทั้งวิทยุม.ก.ที่มีการสื่อสารทั่วประเทศอยู่แล้ว จึงเป็นโอกาสดีที่มีการเขื่อมโยงและสร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้เป็นวงจรร่วมกัน ไม่มีผู้นำแต่ทุกคนเป็นผู้นำและเป็นผู้ปฏิบัติและสอดคล้องบริบทการเกษตรที่สมบูรณ์ในอนาคต” รศ.ดร.ปภพกล่าวว่า
การทำงานของคณาจารย์จะย้อนศร ไม่ใช่รูปแบบเดิมอีกต่อไปที่อาจารย์ทำผลงานวิชาการแล้วให้นิสิตไปสร้างในชุมชน แต่จะทำจากข้างล่างขึ้นมาข้างบน ทำให้เราได้รู้ปัญหาภาคเกษตรในระดับฐานรากอย่างแท้จริงเพื่อการแก้ปัญหาของภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างตรงจุด
“ผมคิดว่าคณะน่าจะมีตัวตนมากขึ้นในเรื่องของการสื่อสาร เราจะทำหน้าที่กำจัดตัวกลาง เราทำพวกแอพพลิเคชั่นตรงไปยังเอสเอ็มอี ตอนนี้ตัวคณะเกษตรได้รับการยอมรับจากจังหวัดมาก ผมคิดว่าตรงนี้เราจะทำแบบนิวเน็ตเวิร์ค”คณบดีคณะเกษตร กล่าวย้ำ
อย่างไรก็ตามในวันที่ 2 ธ.ค.63 เวลา 10.00 น.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยสถานีวิทยุม.ก.จะลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU)ระหว่างสถานีวิทยุม.ก.กับคณะเกษตร กำแพงแสน พร้อมกันนี้มีพิธีเปิดห้องออกอากาศอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ”เคอร์พลัส เกษตรอภิรมย์” โดยมี ดร.จงรักวัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีด้วย