ชป.เร่งช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ พร้อมเฝ้าระวัง24ชั่วโมง
ระดมเครื่องจักรเครื่องมือเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่หลังเกิดฝนตกหนัก
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมาในพื้นที่ภาคใต้ บริเวณจังหวัดพัทลุง ส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณลุ่มน้ำคลองท่าแนะ ลุ่มน้ำคลองสะพานหยี ลุ่มน้ำคลองป่าบอน มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกงหราอำเภอป่าบอน อำเภอเมือง อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้ว ที่สถานีวัดน้ำบ้านเขาปู่ ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และสถานีวัดน้ำบริเวณประตูระบายน้ำท่าแนะ ระดับน้ำเริ่มทรงตัว แต่เนื่องจากยังคงมีฝนตกลงมาสลับหยุดเป็นช่วงๆ อย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้บริเวณเทศบาลอำเภอควนขนุน ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้เบื้องต้น โครงการชลประทานพัทลุง ได้เข้าติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 4 เครื่อง บริเวณชุมชนโคกเนียน ชุมชนเขาอกทะลุ และบริเวณถนนไชยบุรี พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 10 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำคลองลำเบ็ด รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบไฮโดวโฟวล์ จำนวน 1 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำคลองลำเบ็ด เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด
สำหรับพื้นที่จังหวัดตรัง เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง บริเวณติดกับเทือกเขาบรรทัด และบริเวณบ้านนาหาร ตำบลละมอ อำเภอนาโยง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่อำเภอนาโยง อำเภอเมือง และบางพื้นที่บริเวณที่ราบลุ่มริมคลองนางน้อย สถานการณ์น้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนจังหวัดนราธิวาส มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอระแงะ ที่สถานีวัดน้ำ สะพานลันตู อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง90 ซ.ม. และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ที่สถานีวัดน้ำ บ้านบูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.47 ม. มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โครงการชลประทานนราธิวาส ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณบ้านยะกัง 4 เครื่อง ที่บริเวณท่อระบายน้ำปลายคลองลาน 5 เครื่อง ที่หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านรอตันบาตู จำนวน 1 เครื่อง และที่บริเวณหน้าค่ายทหารกองพันทหารราบที่ 3 จำนวน 2 เครื่อง รวมทั้งสิ้น 12 เครื่อง รวมท้งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 4 เครื่อง ที่ประตูระบายน้ำแบ่ง ต.ไพรวัน อ.ตากใบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำให้เร็วยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามกรมชลประทาน ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดตามได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ชลประทานบริการประชาชน ได้ตลอดเวลา