กรมหม่อนไหม เตรียมเปิดตลาดหม่อนไหมดี 4 ภาคกระตุ้นเศรษฐกิจหลังภัยโควิ ด-19
ในงานวันคล้ายวั นสถาปนาครบรอบปีที่ 11 วันที่ 3-4 ธันวาคมนี้
พร้อมยกทัพอาหารจากใบหม่ อนและดักแด้ไหม เมนูสุขภาพทางเลือกอาชีพเสริ มและอาชีพ-หลักให้ประชาชน
นายสันติ กลึงกลางดอน รองอธิบดีกรมหม่อนไหม ได้รับมอบหมายจากนายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมหม่อนไหม ให้เป็นผู้แทนกรมหม่อนไหม ร่วมแถลงข่าวประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรุงเทพฯ โดยมีนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน
รองอธิบดีกรมหม่อนไหม ได้แถลงถึงการจัดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมหม่อนไหม ครบรอบปีที่ 11 ซึ่งจะจัดในวันที่ 3-4 ธันวาคม 2563 ณ กรมหม่อนไหม (เกษตรกลางบางเขน) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการหม่อนไหมไทย และทรงให้มีหน่วยงานที่ดูแลงานหม่อนไหมของประเทศอย่างเป็นระบบ นำมาสู่การจัดตั้งกรมหม่อนไหมในวันที่ 4 ธันวาคม 2552 และเพื่อเผยแพร่บทบาทภารกิจและผลงานของกรมหม่อนไหม สำหรับในปีนี้ กรมหม่อนไหมจัดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมหม่อนไหม เป็นจำนวน 2 วัน คือวันที่ 3 และ 4 ธันวาคม 2563 โดยจะมีการแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีต่อวงการหม่อนไหมไทย นิทรรศการจุดกำเนิดกรมหม่อนไหม นิทรรศการเผยแพร่ผลงานกรมในด้านต่าง ๆ อาทิ เกษตรแปลงใหญ่หม่อนไหม การย้อมเส้นไหมด้วยครามและครั่ง โครงการผ้าทออีสานสู่สากล การนำใบหม่อนไปเลี้ยงไหม ผ้าไหมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เครื่องสาวไหม และไหมขัดฟันจากไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้าน เป็นต้น
ทั้งนี้ กรมหม่อนไหมได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดหม่อนไหม หม่อนไหมดี 4 ภาค โดยจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากหม่อนและไหมจากเกษตรกรและผู้ประกอบการทั่วประเทศ กว่า 25 ร้านค้า อาทิ ภาคเหนือ นำผ้าไหมยกดอกลำพูน ผ้าซิ่นตีนจก และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากหม่อน ได้แก่ น้ำหม่อนพร้อมดื่ม หม่อนจี๊ดจ๊าด แยมหม่อน กัมมี่ และขนมงาหม่อน ภาคกลาง ได้นำผ้าไหมทอลาย ผ้าไหมถัก และเสื้อผ้าไหมสำเร็จรูปที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานตรานกยูงพระราชทาน ภาคใต้ จำหน่ายผ้าไหมจากบ้านนาหมื่นศรี จังหวัดตรัง ผ้าไหมลายเอกลักษณ์ของบ้านป่ากล้วย จังหวัดชุมพร และผ้าไหมจากกลุ่มชาตพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์บ้านสองพี่น้อง จังหวัดเพชรบุรี ภาคตะวันออกฉียงเหนือ นำผ้าไหมขิด ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมกาบบัว ผ้าไหมลายลูกแก้วย้อมมะเกลือ ผ้าไหมแส่ว ผลิตภัณฑ์แปรรูปผ้าไหมพร้อมแส่ว ผ้าไหมพื้น ทั้งที่ย้อมคราม ย้อมสีธรรมชาติ ย้อมสีเคมี ในรูปแบบผ้าไหมพื้น ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าขาวม้า ผ้าถุง ผ้าโสร่ง รวมทั้งสินค้าจากผ้าไหมและรังไหมตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูป กระเป๋า โคมไฟ พวงกุญแจ หน้ากากอนามัย เวชสำอางจากโปรตีนไหม เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมหม่อนไหมจะเปิดตัว ผ้าไหมสีกากี สำหรับตัดเครื่องแบบข้าราชการยุคใหม่ (กางเกงและเสื้อแขนยาว) ในงานนี้ โดยจะนำผ้าไหมผืนสีกากีมาจำหน่ายในราคาทุน โดยไม่แสวงหากำไร และจะจำหน่ายต่อเนื่องถึงไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2564
สำหรับการแปรรูปเป็นอาหารนั้น ปีนี้เป็นปีแรกที่กรมหม่อนไหมจะจัด มหกรรมอาหารจากใบหม่อนและดักแด้ไหม ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพเพราะใบหม่อนและดักแด้ไหมมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยใบหม่อนนั้น ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอล มีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยบำรุงร่างกาย
ส่วนดักแด้ไหม ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการเลี้ยงไหม มีสรรพคุณช่วยขยายหลอดเลือด เสริมสร้างสมอง ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ทั้งยังมีกรดไลโนเลนิก ซึ่งเป็นสารในกลุ่มโอเมก้า-3 ที่จำเป็นต่อการทำงานของสมองในด้านการมองเห็น การปรับตัว การเรียนรู้ และอารมณ์ และยังอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 ด้วย ที่สำคัญ การส่งเสริมการผลิตดักแด้ไหมเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร ยังสอดคล้องกับนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดนโยบายตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตโปรตีนจากแมลงหรือฮับแมลงโลก และยังสอดรับกับแนวทางขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO : Food and Agriculture Organization) ที่ประกาศให้ ”แมลงเป็นแหล่งอาหารในอนาคตของโลก” ซึ่งกรมหม่อนไหมได้ส่งเสริมเกษตรกรหม่อนไหมกว่า 20,000 ราย ในการพัฒนาดักแด้ไหมเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่มาแรงเป็นที่ต้องการอย่างมากในขณะนี้ด้วย
สำหรับ มหกรรมอาหารจากใบหม่อนและดักแด้ไหมนั้น จะมีการสาธิตการปรุงอาหารที่ทำจากใบหม่อนและดักแด้ไหม อาทิ ยำหม่อนดักแด้ไหม ดักแด้ติดถ้ำนางนอน ห่อหมกดักแด้ พั้นซ์ลูกหม่อนไอ้ต้าวมัลเบอร์รี่ปังปุริเย่ (ขนมทำจากผลหม่อนและดักแด้) แฮมเบอร์เกอร์ดักแด้ไหมและซอสพริกหม่อน ขนมเทียนดักแด้ น้ำพริกดักแด้ ผักสด ห่อหมกดักแด้ เป็นต้น
“การปลูกหม่อนใช่ว่าจะได้เพียงใบหม่อนไปเลี้ยงไหม และการเลี้ยงไหมก็ใช่เพียงนำเส้นใยไปทอเป็นผืนผ้าอาภรณ์เครื่องนุ่งห่มเท่านั้น เราสามารถสร้างสรรค์หม่อนและไหมเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมหาศาล และนำไปสร้างเป็นอาชีพทางเลือกได้หลากหลาย ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจากเชื้อโควิด-19 ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก อาหารจากใบหม่อนและดักแด้ไหม จึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับเกษตรกรและผู้ที่สนใจที่สามารถนำไปเป็นอาชีพเสริมหรือเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ได้” รองอธิบดีกรมหม่อนไหมกล่าว
กรมหม่อนไหมจึงขอเชิญทุกท่านมาร่วมชมผลงานกรมหม่อนไหม มาชิมอาหารสุขภาพ กับมหกรรมอาหารจากใบหม่อนและดักแด้ไหม ในงานวันคล้ายวันสถาปนากรมหม่อนไหม ปีที่ 11 วันที่ 4 ธันวาคม 2563 พร้อมเลือกซื้อเลือกชมผ้าไหมสวยๆ และสินค้าจากหม่อนและไหมหลากหลายมากมายจากทั่วประเทศ ในวันที่ 3-4 ธันวาคม 2563 ณ กรมหม่อนไหม (ในเกษตรกลางบางเขน)