รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม(คกก.ฯ) ครั้งที่ 29/2563

นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม(คกก.ฯ) ครั้งที่ 29/2563 ณ ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม (สสจ.ฯ) เพื่อติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 โดยนำการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 7) ตั้งแต่วันที่ 1–30 พฤศจิกายน 2563 ขึ้นมาพิจารณา เพื่อนำมาเป็นมาตรการในการเฝ้าระวังป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ในพื้นที่

ซึ่งในการพิจารณาในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย การอนุญาตให้รถบรรทุกรับ-ส่งสินค้าภายในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) ภายใน 16 ชั่วโมง (แบบมีการพักค้างคืน) ของบริษัท คำม่วนซิเมนต์ จำกัด (KCL) และบริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SCGL) ให้ดำเนินการได้ หลังจากทั้ง 2 บริษัทมีการนำเสนอแผนการดำเนินงานในการป้องกันโรคในด้านต่าง ๆ ว่า มีมาตรฐานที่ดีมีความปลอดภัย
ทั้งนี้มติที่ประชุมยังคงให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติตามมาตรการที่ดำเนินการมาเหมือนเดิมด้วย โดยให้เจ้าหน้าที่ประจำด่าน พนักงานขนส่งสินค้า พนักงานขับเรือ ต้องสวมถุงมือ หน้ากากอนามัยและชุดกาวน์กันน้ำ สินค้าขาเข้าก็ต้องผ่านการฉีดพ่นฆ่าเชื้อก่อนเคลื่อนย้ายสินค้าจากจุดที่กำหนด
หลังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม มีมติอนุญาตขยายเวลาให้เฉพาะรถบรรทุกปูนซิเมนต์ ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3(นครพนม-คำม่วน) ได้ในเวลา 16 ชั่วโมง ทำให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกสินค้ารายอื่นโวย ว่า เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ และ คกก.ฯมะงุมมะงาหราโดยไม่มีการอัพเดทข้อมูลล่าสุด เนื่องจากทางจังหวัดมุกดาหาร ที่อยู่ห่างจังหวัดนครพนม 100 กิโลเมตร อนุญาตให้รถบรรทุกสินค้าข้ามสะพานมิตรไพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ได้ถึง 72 ชั่วโมง

กล่าวคือ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 จังหวัดมุกดาหาร อนุญาตรถบรรทุกสินค้าทุกชนิด ใช้ถนนเส้นทาง R 12 เข้าไปส่งสินค้าได้ถึงชายแดนด่านลาวบาว เมืองกวางจิ ประเทศเวียดนาม โดยให้เวลาขนส่งสินค้าเป็นเวลา 72 ชั่วโมง หากเกินเวลาที่กำหนด เมื่อกลับเข้าฝั่งประเทศไทย คนขับรถและผู้ช่วยจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน โดยจะต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

ในขณะที่จังหวัดนครพนม ยังต้วมเตี้ยมยึดมาตรฐานเดิมๆให้ข้ามได้เพียง 7 ชั่วโมง ภาระจึงมาตกอยู่ที่ผู้ประกอบการขนส่งสินค้า โดยเฉพาะประเภทผลไม้สด ซึ่งมีความจำเป็นต้องรักษาความสดจนถึงมือผู้บริโภคที่ประเทศจีนตอนใต้ โดยใช้เส้นทาง R 12 ถนนเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงการค้า 3 ประเทศ คือ ไทย ลาว และเวียดนาม เมื่อจังหวัดนครพนมขีดเส้นให้แค่ 7 ชั่วโมง ทางผู้ประกอบการด้านนี้ จึงขนสินค้าไปส่งได้แค่ประเทศลาว ก่อนจะขนถ่ายให้รถบรรทุกของประเทศเพื่อนบ้านนำไปส่งอีกทอด ซึ่งเป็นการเสียค่าขนส่ง 2 เด้ง แต่ด้วยมาตรฐานการรักษาความสดใหม่ผลไม้ของรถบรรทุกฝั่งประเทศเพื่อนบ้านยังไม่ทันสมัย ทำให้ผลไม้เน่าเสียจึงถูกตีกลับมาเป็นตู้คอนเทนเนอร์

นายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ปัญหานี้ผู้ประกอบการพยายามให้ คกก.นครพนม พิจารณาการขยายระยะขนส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น ก็ไม่มีเสียงตอบรับจาก คกก.ฯแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับอนุญาตให้รถบรรทุกสินค้าบางประเภทเท่านั้น จึงถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันมีผู้บริหาร สสจ.ฯ บางคน จะพิจารณาเงื่อนไขหรือหลักการเฉพาะที่เป็นคุณต่อตนเอง หากตนไม่ได้คุณก็จะปัดเรื่องลงถังขยะ จากที่ผ่านมา สสจ.ฯ ช่วงโรคโควิดระบาด ล้วนต่างทำงานอย่างขะมักเขม้น แต่หลังโรคระบาดผ่อนคลาย ก็ยังไม่คลายมาตรการ ยังอ้างคำเดิมๆคล้ายว่าไม่ได้ออกไปสัมผัสของจริง หรือปัจจุบันใช้วิธีพิจารณากันในห้องทำงานเพียงอย่างเดียว

เทพพนมรายงาน