ททท. เชิญคณะเอกอัครราชทูตสัมผัสอัตลักษณ์ไทย เส้นทางท่องเที่ยวศาสตร์พระราชาฯ จังหวัดอุดรธานี
เมื่อความแห้งแล้ง และความยากลำบากได้เกิดขึ้นกับชาวบ้าน และเกษตรกร เนื่องจากไม่มีน้ำสำหรับอุปโภค และบริโภค “โครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาว” จึงเกิดขึ้น ซึ่งเป็นโครงการแรกในจังหวัดอุดรธานี ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อมีการสร้างอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ขึ้นมา เหล่าชาวบ้าน และเกษตรกรในบริเวณใกล้เคียงกว่า 300 คน ก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) จึงได้จัดทำ “โครงการศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาซ่อมสร้างและยกระดับมาตรฐาน รวมทั้งเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและสินค้าที่จะสร้างคุณค่าทางการท่องเที่ยวสร้างสรรค์”
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการศาสตร์พระราชานี้ เป็นโครงการที่ต่อยอดมาจากโครงการตามรอยศาสตร์พระราชา เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ซึ่งได้จัดทำขึ้นเป็นปีที่สาม โดยมีเป้าหมายในการสร้างการท่องเที่ยวแบบ New Normal และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและการบริการ โดยเฉพาะสินค้าและบริการจากชุมชนที่มีเอกลักษณ์ ผ่านกิจกรรมที่มีคุณค่า รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจคุณูปการของศาสตร์พระราชา โดยเส้นทางในครั้งนี้ คือ “ชุมชนบ้านโนนกอก – โครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาว จังหวัดอุดรธานี”
โดยเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม – 1พฤศจิกายน 2563 ททท. ได้รับเกียรติจากคณะเอกอัครราชทูตร่วมเดินทางสัมผัสอัตลักษณ์ ประกอบด้วย นายเกส ปีเตอร์ ราเดอ (H.E. Mr. Kees Pieter Rade) เอกอัครราชทูตประเทศเนเธอร์แลนด์ พร้อมภริยา, นายทาฮาโมอานา ไอเซอา คลูนี แมกเฟอร์ซัน (H.E. Mr. Tahamoana Aisea Cluny Macpherson) เอกอัครราชทูตประเทศนิวซีแลนด์ พร้อมภริยา และนายโจเซฟ แอนโทนี คอตเตอร์ (H.E. Mr. Joseph Anthony Cotter) เอกอัครราชทูตประเทศไอร์แลนด์ พร้อมภริยา ในเส้นทาง “ชุมชนบ้านโนนกอก – โครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาว จังหวัดอุดรธานี”
เริ่มต้นที่การเดินทางเข้าเยี่ยมชม โครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หมู่บ้านที่เคยประสบภาวะขาดแคลนน้ำ และภายหลังได้รับการช่วยเหลือจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาวไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งต่อมาได้มีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำซำตมขาว พร้อมท่อส่งน้ำเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และทำการเกษตร จากนั้นคณะเอกอัครราชทูตได้เดินทางต่อไปยังทะเลบัวแดง หนองหาน ที่ได้ชื่อว่าเป็นทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ กินพื้นที่ อ.กุมภวาปี และพื้นที่ อ.ประจักษ์ศิลปาคม ของ จ.อุดรธานี ทั้งความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ และถือเป็นต้นแบบของการศึกษาระบบนิเวศน์วิทยา ก่อนเดินทางไปยังศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน มูลนิธิศาลเจ้าปู่ย่า เพื่อเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของคนไทยเชื้อสายจีนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย พร้อมทั้งเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมไทย-จีนอันงดงาม
ในส่วนของชุมชนนั้น คณะเอกอัครราชทูตได้เดินทางไปยังศูนย์เรียนรู้กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ณ ชุมชมบ้านโนนกอก เพื่อรับฟังเรื่องราวความเป็นมาของชุมชน พร้อมชมพิพิธภัณฑ์ผ้าทอ ที่เป็นแหล่งรวบรวมลายผ้าทอโบราณ และหมอนขิดเก่าแก่ ชมการสาธิตทอผ้าลายท้องถิ่นจากคนในชุมชน และร่วมสนุกกับกิจกรรมชุมชน อาทิ การทำผ้ามัดย้อมสีดอกบัวแดงจากภูมิปัญญาท้องถิ่น การห่อข้าวต้มบัวแดง และการทำข้าวเคียบ คือการออกแรงตอกข้าวเหนียวนึ่งคลุกเคล้าส่วนผสมแบบอีสาน
โดยตลอดการเดินทางคณะเอกอัครราชทูตได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก จากคุณนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, คุณภควัลรัตน์ มณีสร้อย รองท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุดรธานี, คุณพรพิมล กังวานตระกูลนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี, ตัวแทนจากศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC), คุณวรพันธ์ ชำนิยันต์ นายอำเภอโนนสะอาด, คุณสมพร คมขำ นายช่างชลประทานอาวุโส, คุณดรณ์ สมิตะเกษตริน นายอำเภอเมืองอุดรธานี, คุณกัมปนาทจักรวาล วิเวศศรีพุทธา พัฒนาการจังหวัดอุดรธานีและชาวบ้านในชุมชน
ติดตามความงดงามของเส้นทางท่องเที่ยวทั้ง 5 เส้นทาง ของโครงการศาสตร์พระราชา เพิ่มเติมได้ที่ www.tourismthailand.org/kingwisdom
พิสิษฐ์ รื่นเกษมข่าว รายงาน