กรมชลประทาน วางแนวทางจัดจราจรน้ำในลุ่มน้ำมูล เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
ลงสู่แม่น้ำมูลให้เร็วที่สุด พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาว่า จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าปัจจุบัน (17 ต.ค. 63) เขื่อนลำพระเพลิงมีปริมาณน้ำประมาณ 157.73 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 102 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯประมาณ 11.82 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากยังคงมีฝนตกในพื้นที่ตอนบนบริเวณเขาใหญ่ ต้องระบายน้ำออกจากอ่างฯประมาณวันละ 14 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้เพื่อเป็นการเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาให้ไหลลงสู่แม่น้ำมูลได้เร็วขึ้น ได้สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกล ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณอำเภอพิบูลย์มังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำมูลให้ไหลลงสู่แม่น้ำโขงให้ไวที่สุด พร้อมทั้งจัดจราจรน้ำ ด้วยการหน่วงน้ำในแม่น้ำชีให้ได้มากที่สุด เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงไปสมทบกับแม่น้ำมูล ซึ่งจะช่วยให้การระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะจากพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนลำพระเพลิงลงสู่แม่น้ำมูลได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ดำเนินการสำรวจพื้นที่ได้รับผลกระทบด้านท้ายน้ำเขื่อนลำพระเพลิง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่งถึงต่อไป
อย่างไรก็ตามปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ปากช่อง อ.ปักธงชัย และอ.เมืองนครราชสีมา กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้าไปตรวจสอบความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำทำการสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในระยะต่อไป หากประชาชนหรือหน่วยงานใด ต้องการความช่วยเหลือสามารถประสานไปยังโครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ชลประทานบริการประชาชน ได้ตลอดเวลา