“หมอสงค์” ทำบุญวันเกิดอายุครบ 84 ปี เผยทำงานการเมืองเพื่อประชาชนเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายแพทย์ ประสงค์บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ/รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยภรรยานางจันทร บูรณ์พงศ์ นายศักดา บูรณ์พงศ์ ลูกชาย นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย นายอรรถสิทธิ์ คันคาย ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม 7 สมัย นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม พ.ท.ประสาร แสงสว่าง เลขานุการส่วนตัว เข้าร่วมทำบุญพิธีบายศรีสู่ขวัญ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของหมอสงค์อายุครบ 84 ปี ณ วัดหัวดอน ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีพระครูสังฆรักษ์สิรภพ ฐิตสิโล เจ้าอาวาสวัดหัวดอน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ตลอดจนพ่อค้า ประชาชน มาร่วมพิธีอย่างคับคั่ง
นอกจากนี้ น.ส.สุพัชนีย์ ศรวิเศษ ผู้ช่วยดำเนินงาน ส.ส.ฯ นายณัติรุจน์ ศรีชาติวาณิชย์ (โค้ชOnline NetIdol) และกัลยาณมิตรทุกท่านร่วมทำบุญถวาย พ่อปู่ศรีสุทโธ แม่ย่าศรีปทุมมา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลถวายเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนารถบพิตร รัชกาลที่ 9
นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ กล่าวว่า ตนมีความผูกพันกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนมมายาวนานหลายสิบปี ตั้งแต่มาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม มีคนไข้ที่มีฐานะยากจนไปพบแพทย์ บางคนมีเงินไม่ถึงร้อยบาท ไหนจะค่ารถโดยสารค่ากินอีก ตนลงตรวจคนไข้เจอปัญหาเหล่านี้ทุกวัน ก็ช่วยเหลือค่าหยูกยาตามกำลัง จึงได้ฉายาหมอคนยากตั้งแต่บัดนั้นมา ก่อนจะตัดสินใจลงสนามการเมือง ครั้งแรกก็ได้เป็น ส.ส.เลย ก็รู้สึกดีใจที่ชาวบ้านรักและศรัทธาตนเรื่อยมา และจะไม่ลืมทุกคะแนนเสียงที่กาให้ตน จะทำงานด้านการเมืองเพื่อประโยชน์ของประชาชนให้มากที่สุด ใครมีปัญหาเดือดร้อนเรื่องใดก็ไปหาตนได้ตลอดเวลา
ตามประวัติวัดหัวดอนนามเดิมชื่อวัดศรีสมพร สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2350 ไม่มีหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ภายหลังเปลี่ยนชื่อวัดในปี พ.ศ.2484 ตาม พรบ. ปกครองคณะสงฆ์ ปี พ.ศ.2484 โดยเปลี่ยนตามชื่อหมู่บ้านคือบ้านหัวดอน เพื่อให้ง่ายแก่การจดจำ จึงได้ชื่อว่าวัดหัวดอนมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปนามสมเด็จนางพญาศรีสมพร ตามประวัติระบุว่านายโพ เป็นนายตำรวจชาวอำเภอพนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ได้สมรสกับชาวบ้านหัวดอน ก่อนมารับราชการเป็นตำรวจท่านเคยบวชเรียนมาก่อน ในปีพ.ศ.2475 นายโพได้มีศรัทธารวบรวมของมีค่าที่สั่งสมมา และชักชวนชาวบ้านหัวดอนบริจาคทรัพย์สิน เช่น ทองคำ ทองแดง เงิน เป็นต้น รวบรวมไปหล่อองค์พระที่วัดโพธิ์เครืออยู่หมู่บ้านเสียว มีพระครูสอนเป็นชาวไทญ้อ เป็นพระมหาเถระผู้มีวิชาการช่างหล่อพระโบราณ และมีวิชาอาคมในสมัยนั้น ผู้คนต่างพากันให้เคารพท่านมาก ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสโพธิ์เครือ บ้านเสียว (ปัจจุบัน คือวัดโพธิ์เครือบ้านเสียว ต.บ้านเสียว อ.นาหว้า จ.นครพนม
โดยสิ่งของมีค่าที่นำไปหล่อพระดังกล่าวในคราวนั้น สามารถหล่อพระได้ 2 องค์ คือองค์ขนาดใหญ่ ชื่อพระศรีสมพร (ตามชื่อวัดเดิม) องค์ขนาดเล็ก ชื่อพระชัยอัปสร(พระชัยหลังช้าง ใช้แห่ในงานมงคลต่างๆ เช่น งานสงกรานต์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเนื้อสัมฤทธิ์แก่ทองคำ) ทั้งสององค์เป็นศิลปะล้านช้าง สกุลช่างพื้นถิ่นของชาวไทญ้อ ปัจจุบันเหลือเพียงพระศรีสมพร ส่วนพระชัยอัปสรหายไปตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้ว
คำจารึกในฐานพระศรีสมพร คือ พ.ศ.2475 พระครูสอนเป็นผู้รจนา นายโพเป็นเจ้าสัทธา ณ วัดโพธิ์เครือ บ้านเสียว เหตุที่มีสมเด็จพระนางพญานำหน้าชื่อ เนื่องจากปีที่สร้างพระศรีสมพรนั้น คือ พ.ศ.2475 เป็นปีประสูติของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงขอถวายเป็นพระราชกุศล จึงได้ชื่อที่ไพเราะ งดงามตามรูปลักษณ์ขององค์พระพุทธรูปนี้ว่าสมเด็จพระบางพญาศรีสมพร
เทพพนม รายงาน