กสอ. ช่วยผู้ประกอบการเกษตร ขายผ่าน ไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ
คาดมูลค่าสินค้าเกษตรอุตฯ สิ้นปี 63 โตแตะ 1 แสนล้านบาท
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จับคู่ผู้ประกอบการสินค้ าเกษตรอุตสาหกรรมแปรรูปกับผู้ ประกอบการห้างสรรพสินค้าไฮเปอร์ มาร์เก็ต เพื่อขยายตลาด เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย พร้อมจัดโครงการส่งเสริมผู้ ประกอบการให้ได้รับมาตรฐานสากล ตั้งเป้า สิ้นปี 2563 ยกระดับมูลค่าสินค้าเกษตรแปรรู ปกว่า 1 แสนล้านบาท และเตรียมขยายผลไปยังผู้ ประกอบการทั่วประเทศในปี 2564
นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) มุ่งมั่นสนับสนุนผู้ ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมแปรรู ปให้ได้รับมาตรฐานสากล โดยมอบรางวัลให้กับผู้ ประกอบการที่ได้รับมาตรฐานสากล จำนวน 10 กิจการ พร้อมจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการเกษตรจำนวน 30 ราย ร่วมกับ บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัด หรือ เทสโก้โลตัส บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด หรือ ท็อปส์ และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการเกษตรอุ ตสาหกรรมได้มีช่องทางการจั ดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น โดยผู้แทนจากห้างสรรพสินค้าจะพิ จารณาจากคุณภาพสินค้า กระบวนการผลิตและการได้รับการรั บรองมาตรฐานสากล เพื่อการันตีคุณภาพผลิตภัณฑ์ พร้อมหารือโดยตรงกับผู้ ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเพื่ อบรรลุข้อตกลงร่วมกัน สร้างรายได้และขยายฐานลูกค้า
ที่ผ่านมา กรมฯ ได้จัดกิจกรรมการส่งเสริมและพั ฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ ระบบมาตรฐานสากล ทั้งอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอุ ตสาหกรรมสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง พร้อมนำระบบมาตรฐานสากลเข้ าไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อการดำเนินธุรกิ จขยายโอกาสทางการตลาดและสร้ างความสามารถในการแข่งขันด้านธุ รกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยได้ดำเนินการถ่ายทอดองค์ ความรู้ ให้คำปรึกษาแนะนำ ประเมินความพร้อมเพื่ อตรวจประเมินขอการรั บรองมาตรฐานแก่สถานประกอบการที่ เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่ วมโครงการ มีความพร้อมสำหรับจั ดทำระบบระบบมาตรฐานสากล และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
นายใบน้อย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการดำเนินงานในปีนี้ ได้เตรียมความพร้อมผู้ ประกอบการให้ได้รั บมาตรฐานระบบต่าง ๆ อาทิ มาตรฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ หรือ GMP มาตรฐานควบคุมดูแลความปลอดภั ยในทุกกระบวนการผลิตอาหาร หรือ HACCP มาตรฐานความปลอดภั ยทางอาหารของสมาคมผู้ประกอบธุ รกิจค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร หรือ BRC มาตรฐานองค์กรธุรกิจทั่วโลกต่ างให้ความสำคัญ หรือ ISO9001 มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้ อม หรือ ISO14001 มาตรฐานระบบการจัดการความปลอดภั ยของอาหาร หรือ ISO22000 และ มาตรฐานสากลเพื่อการจัดการอาชี วอนามัยและความปลอดภัย หรือ ISO45001 ซึ่งผู้ประกอบการทั้งหมดได้รั บการตรวจประเมินจากหน่วยงานให้ การรับรอง (Third Party Audit)
อย่างไรก็ดี ในปี 2564 กรมฯ ได้ตั้งเป้าขยายการส่งเสริมผู้ ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมเพื่ อให้ได้รับมาตรฐานสากลในทุกภูมิ ภาค โดยมีศูนย์ส่งเสริมอุ ตสาหกรรมภาค ทั้ง 11 ศูนย์ ขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม ตั้งเป้าหมายส่งเสริมผู้ ประกอบการ 100 กิจการ ทั้งนี้ เมื่อได้รับมาตรฐานสากลแล้ว จะช่วยให้การจำหน่ายสินค้าเป็ นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีผลต่อความเชื่อมั่ นและการตัดสินใจซื้อสินค้า
ของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ภาพรวมการผลิตสินค้าเกษตรในกลุ่ มสินค้าแปรรูป ตั้งแต่ช่วงต้นปี จนถึงปัจจุบัน (สิงหาคม 2563 ;ธนาคารแห่งประเทศไทย) มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 83,009.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5 คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,139.16 ล้านบาท จากเดือนมกราคม 2563 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่ างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแพร่ ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ เกษตรแปรรูป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ อาหารเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสทองสำหรั บผู้ประกอบการ และด้วยการดำเนินโครงการส่งเสริ มและพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้ อมเข้าสู่ระบบมาตรฐานสากล ให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์คุ ณภาพสอดรับความต้ องการของตลาดในทั่วทุกมุมโลก ซึ่งคาดว่าสิ้นปี 2563 มูลค่าสินค้าเกษตรแปรรูปจะเพิ่ มขึ้นถึง 1 แสนล้านบาท นายใบน้อย กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่ กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2202 4414 – 18 หรือ เข้าไปที่ www.dip.go.th