กรมชลประทาน ย้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายกเอาอยู่  ไม่มีปัญหาแม่ใกล้จะเต็มความจุเก็บกัก เหตุจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่าน ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนบริเวณเขาใหญ่ ส่งผลให้มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำอย่างต่อเนื่อง ยืนยันระบายน้ำให้อยู่ในระดับควบคุมได้ไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน

กรมชลประทาน ย้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายกเอาอยู่  ไม่มีปัญหาแม่ใกล้จะเต็มความจุเก็บกัก

เหตุจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่าน ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนบริเวณเขาใหญ่

ส่งผลให้มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำอย่างต่อเนื่อง ยืนยันระบายน้ำให้อยู่ในระดับควบคุมได้ไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน

 

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า อิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่าน ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนบริเวณเขาใหญ่ ส่งผลให้มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล อย่างต่อเนื่อง จนใกล้ระดับเก็บกักล่าสุด ได้สั่งการให้เร่งระบายน้ำให้อยู่ในระดับควบคุมโดยไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ด้าน ท้ายเขื่อน ปัจจุบัน(4 ต.ค. 63) เขื่อนขุนด่านฯ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 217 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 97 ของความจุอ่างฯ มีการระบายน้ำวันละประมาณ 1.9 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำนี้จะไหลลงสู่แม่น้ำนครนายก ซึ่งเมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (4 ต.ค. 63) ที่สถานีวัดน้ำ Ny.1B ต.เขานางบวช อ เมืองนครนายก มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 60 ลบ.ม./วินาที (ความจุลำน้ำ 246 ลบ.ม./วินาที) ยังสามารถรับการระบายน้ำจากอ่างฯได้อีกประมาณ 186 ลบ.ม./วินาที หรือ 16 ล้าน ลบ.ม./วัน

 

อย่างไรก็ตามกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ฤดูฝนปี 2563 จะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม 2563 นี้ เท่ากับว่าเขื่อนขุนด่านฯ สามารถเก็บกักน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ ส่งผลดีเป็นอย่างมากต่อชาวนครนายกและพื้นที่ใกล้เคียง ที่จะมีน้ำต้นทุนไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้าที่จะมาถึงนี้อย่างเพียงพอ และขอย้ำอีกครั้งว่าเขื่อนขุนด่านปราการชล ยังมีความมั่นคงแข็งแรง 100 % พร้อมที่จะบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนแต่อย่างใด