ด่วน….ทางการมาเลเซียผลักดันคนไทยจำนวน 48 คน ที่ถูกจับกุมในประเทศมาเลเซียและพ้นโทษ กลับสู่ประเทศไทยทางด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซียนำเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโควิดอย่างเข้มข้นและกักตัว 14 วัน เพื่อสังเกตอาการ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้(18ก.ย.63) ที่ด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ทางการมาเลเซียได้ผลักดันคนไทยจำนวน 48 คน เป็นชาย 38 คนและหญิง 10 คน ซึ่งถูกจับกุมและดำเนินคดีอยู่ในประเทศมาเลเซียและพ้นโทษแล้ว กลับประเทศไทยโดยตม.มาเลเซียได้จัดรถบัสมาส่งที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ตรงข้าม กับ ด่านบูกิตกายูฮิตัม รัฐเคดาห์ ของมาเลเซีย
ทันทีที่มาถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ดูแลพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซียทั้งทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่5 ตำรวจ สภ.สะเดา ตชด.437 ฝ่ายปกครองอำเภอสะเดาและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ใน อ.สะเดา ได้รับตัวและนำเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโควิด 19 ทันที ตั้งแต่ก้าวแรกที่ย่างเข้าสู่เขตประเทศไทยตั้งแต่เช็ดรายชื่อ ตรวจประวัติ ตรวจวัดอุณหภาพ เก็บสารคัดหลั่ง ก่อนเข้าสู่กระบวนการของตม.ไทยเพื่อผ่านแดนเข้าสู่ประเทศไทย โดยหากไม่พบอาการที่เข้าข่ายโควิด 19 ทั้งหมดก็จะถูกส่งไปกักตัว 14 วัน ยังศูนย์กักในพื้นที่บ้านด่านนอกชายแดนไทยมาเลเซีย เพื่อสังเกตอาการ อย่างไรก็ตามในจำนวนคนไทยทั้ง48 คนที่ถูกผลักดันกลับประเทศจากการตรวจสอบประวัติพบว่ามี2 คน ที่มีหมายจับติดตัว โดยเป็นหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ 1 คนคดีบุกรุก และ หมายจับของศาลจังหวัดเพชรบูรณ์1 คนคดีหนีทหาร
สำหรับการผลักดันคนไทยทั้ง 48 คนหลังพ้นโทษในมาเลเซียในครั้งนี้ เป็นการส่งกลับทางด่านพรมแดนสะเดา เป็นกรณีพิเศษเนื่องจาก ทางการมาเลเซียยังมีปิดด่านพรมแดน บูกิตกายูฮิตัม รัฐเคดาห์ ซึ่งตรงข้ามกับด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลาชั่วคราวเป็นเวลา 14 วันตั้งแต่วันที่ 12-25 กันยายน ห้ามบุคคลเข้าออกชั่วคราวเพื่อควบคุมการระบาดโควิดในมาเลเซียโดยเฉพาะในรัฐเคดาห์ ชายแดนไทย มาเลเซียซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 100 คนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ภาพ/ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร//พิภพ ประดิษฐ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา