คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เห็นชอบ แก้ปัญหานมเหนือล้นให้ อ.ส.ค. สุโขทัย
สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนชนิด ยู.เอส.ที. ไปยังกลุ่มพื้นที่อื่นกว่า 4,680,000 กล่อง
นางอุมาพร พิมลบุตร รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า จากการหารือดังกล่าวพบว่าปริมาณน้ำนมสดจากเกษตรกรที่เลี้ยงโคนมในพื้นที่ภาคเหนือมีปริมาณเกินความต้องการ ซึ่งปัจจุบัน อ.ส.ค. ภาคเหนือ รับซื้อเกินถึงวันละ 16 ตัน คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนจึงร่วมกันหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ โดยให้ทาง อ.ส.ค. ภาคเหนือต้องรับซื้อน้ำนมสดจากเกษตรกรไว้ในราคามาตรฐาน ส่งผลให้นม ยู.เอส.ที จากโรงงาน อ.ส.ค. สุโขทัย มีปริมาณมากกว่าที่จะส่งมอบในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องส่งไปยังกลุ่มพื้นที่อื่น รวมถึงทางคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนพิจารณาแล้วเห็นว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่ส่งนมให้โรงงานในกลุ่มพื้นที่อื่นและผู้รับเหมารายอื่นไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ จึงเห็นชอบให้ อ.ส.ค. ภาคเหนือ สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนชนิด ยู.เอส.ที ข้ามกลุ่มพื้นที่ได้
ทั้งนี้ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ได้มีการขอส่งมอบผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนชนิด ยู.เอส.ที. โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ปีการศึกษา 2563 ข้ามกลุ่มพื้นที่จากโรงงาน อ.ส.ค. สุโขทัย กลุ่มพื้นที่ 4 กระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ คือ กลุ่มพื้นที่ 1 สำนักงานภาคกลาง (มวลเหล็ก) จำนวน 50,000 หีบ (1,800,000 กล่อง) กลุ่มพื้นที่ 3 สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) จำนวน 40,000 หีบ (1,440,000 กล่อง) และกลุ่มพื้นที่ 5 สำนักงานภาคใต้ (ปราณบุรี) จำนวน 40,000 หีบ (1,440,000 กล่อง) รวมทั้งสิน 130,000 หีบ (4,680,000 กล่อง)
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนจะแจ้งไปยังองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ให้มีการแบ่งกลุ่มพื้นที่ในการทำ MOU โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ปีการศึกษา 2564 เป็นรายกลุ่ม และยังได้เน้นย้ำในเรื่องของการควบคุมคุณภาพในการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนชนิด ยู.เอส.ที. ต้องผ่านมาตราฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาทุกครั้งก่อนส่งมอบด้วย