‘ชาวขอนแก่น’ ตื่นตัว ร่วมแชร์มุมมองความตกลง RCEP ชี้! พร้อมปรับตัวรับผลกระทบและเตรี ยมใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่
นางอรมน กล่าวว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) จะเป็นประโยชน์ต่อภาคเกษตรของไทยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากจะช่วยขยายการส่งออก และยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยรายการสินค้าเกษตรที่ไทยจะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น อาทิ ผักผลไม้แปรรูปและไม่แปรรูป น้ำมันพืช ของปรุงแต่งจากธัญพืชและแป้ง แป้งมันสำปะหลัง แป้งสาคู สินค้าประมง อาหารแปรรูป และน้ำผลไม้ ในตลาดจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
นอกจากนี้ อาร์เซ็ปจะช่วยผู้ประกอบการไทยลดต้นทุนจากเกณฑ์กฎถิ่นกำเนิดสินค้าที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และยังเพิ่มทางเลือกในการสรรหาวัตถุดิบจาก 16 ประเทศมาผลิตสินค้า รวมถึงได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากประเทศสมาชิกที่นำเข้าสินค้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสเข้าไปลงทุนในประเทศสมาชิกอาร์เซ็ป ในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ อาทิ ก่อสร้าง ธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านสุขภาพ ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และบันเทิง ประเภทเทคนิคตัดต่อภาพและเสียง การผลิตแอนิเมชั่น และค้าปลีก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ทั้งประโยชน์ที่ได้รับและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น และควรศึกษากฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของแต่ละประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าไปลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการสัมมนาครั้งนี้ ผู้สนใจสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่เพจ Facebook ‘กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ’ และการสัมมนาครั้งต่อไป กรมฯ จะลงใต้จัดที่จังหวัดสงขลา ในวันที่ 17 กันยายน 2563 เพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ ทั่วประเทศได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึง และเตรียมเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากอาร์เซ็ปอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศอาร์เซ็ปจะเป็นกลุ่มตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยประชากรเกือบ 3,600 ล้านคน หรือ 48.1% ของประชากรโลก มีมูลค่า GDP กว่า 28.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32.7% ของ GDP โลก และมีมูลค่าการค้ารวมกว่า 11.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 29.5% ของมูลค่าการค้าโลก