กดดันอย่างหนัก คุมเข้มแนวชายแดน ไทย-มาเลเซีย ทั้งทางบกและทางอากาศสกัดกั้นขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ
สกัดกั้นกลุ่มกองทัพมดลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมาย
วันนี้ 4 ก.ย.63 เจ้าหน้าที่สนธิกำลังคุมเข้มแนวชายแดนไทยมาเลเซีย โดยลาดตระเวนทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน เพื่อป้องกันแรงงานต่างด้าว รวมถึงคนไทยหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ โดยไม่ผ่านการตรวจโควิด หลังจากสถาการณ์โควิดในไทยสุ่มเสี่ยงระบาดรอบสองและในประเทศเพื่อนบ้านทั้งมาเลเซียและเมียนมายังระบาดอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์โควิด19 ที่สุ่มเสี่ยงจะกลับมาระบาดรอบสอง หลังพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด 19 ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง 1 ราย รวมทั้งการระบาดในประเทศเพื่อนบ้านทั้ง เมียนมา และ มาเลเซียที่ยังพบการระบาดอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบตามแนวชายแดน ได้มีการคุมเข้มตามแนวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าว โดยในส่วนของแนวพรมแดนไทยมาเลเซียได้มีการออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน
โดยทางกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 5 และ นักบินจากค่ายอิงคยุทธบริหาร .ปัตตานี ได้นำเฮลิคอปเตอร์ ออกลาดตระเวนตรวจสอบทางอากาศตลอดแนวชายแดนไทยมาเลเซียในพื้นที่ จ.สงขลา ต่อเนื่อง 3 อำเภอทั้ง อ.สะเดา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย ตั้งแต่ด่านพรมแดน ปาดังเบซาร์ ด่านพรมแดนสะเดา และ ด่านพรมแดนบ้านประกอบ ซึ่งมีแนวชายแดนติดกับรัฐเปอร์ลิสและรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย โดยเน้นพื้นที่ป่าเขาที่เป็นช่องทางธรรมชาติ
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าตรวจชายแดนของ ตชด.437 ก็ได้ปูพรมออกเดินเท้าลาดตระเวนภาคพื้นที่ตามแนวรั้วชายแดนไทยมาเลเซีย อย่างต่อเนื่องเช่นกันเพื่อป้องกันการลักลอบเดินทางเข้ามาของแรงงานต่างด้าวรวมถึงคนไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซีย โดยใช้ช่องทางตามชาติ โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่ลักลอบเดินทางเข้ามาจากมาเลเซียแล้วอย่างน้อย3 ครั้งนับร้อยคน
ภาพ/ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา