ส่องทริปเอ็มดี “แหลมเจริญซีฟู้ด” เที่ยวหรูในประเทศ ขานรับแคมเปญ Let’s getaway ของททท. กระตุ้นท่องเที่ยวหลังโควิด-19
นางลักขณา วงศ์วีรธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แหลมเจริญซีฟู้ด จำกัด หลงเสน่ห์การเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในแต่ละเดือนต้องพาครอบครัวออกเดินทางท่องเที่ยว หลังคลายล็อกดาวน์วางแผนเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทาง Let’s getaway ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพราะมีบรรดาโรงแรมหรูต่างๆ ทำโปรโมชั่นพิเศษลดราคากระหน่ำ สามารถเดินทางท่องเที่ยวในเมืองไทยแนวหรูมีสไตล์ในราคาหลักหมื่นนิดๆ อีกทั้งยังสร้างความประทับใจได้ไม่แพ้โรงแรมหรือทริปในต่างประเทศเลย Let’s Getaway เป็นแคมเปญที่ทางททท.ตั้งใจจัดทำขึ้นมา เพื่อดึงนักท่องเที่ยวระดับเอลิสท์ที่มีกำลังทรัพย์และชอบท่องเที่ยวต่างประเทศให้หันมาท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อร่วมฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวต้องเผชิญกับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 หนึ่งในแขกระดับเอลิสท์ที่ทางททท.เชิญมาร่วมโปรโมทแคมเปญที่จับมือกับ 30 โรงแรมหรู อย่างคุณลักขณา นักธุรกิจสายเที่ยว ซึ่งพา คุณชัยรัตน์ วงศ์วีรธร สามีสุดที่รักมาเติมความหวานด้วยการเข้าพักที่ โรงแรม X2 Pattaya Oceanphere, พัทยา
กรรมการผู้จัดการ แหลมเจริญซีฟู้ด เปิดเผยว่า ประโยชน์ที่ได้จากการเดินทางนอกจากจะได้เปิดประสบการณ์แปลกใหม่ยังสถานที่ใหม่ๆ ชุมชนใหม่ๆ ได้พักผ่อนเติมพลังให้ชีวิต ได้ทำให้ครอบครัวอบอุ่นเป็นสุขร่วมทำกิจกรรมสานสัมพันธ์รักให้แนบแน่น “เมื่อใช้ร่างกายทำงานอย่างเต็มที่ ก็ควรไปเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ ชาร์จแบตเติมพลังชีวิต” คุณลักขณา กล่าว
คุณลักขณา กล่าวว่า ดิฉันกับสามีไม่ได้มาพัทยานานกว่า 2 ปีแล้ว ดิฉันบอกลูกว่าจะลองมาพักโรงแรมนี้ดู ลูกยังรู้จักเลย พอได้มาแล้วที่นี่มีความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ ไม่ไกลจากแหล่งที่ท่องเที่ยว เราสามารถพาครอบครัว พาลูก หรือพาเพื่อนไปเที่ยว หรือสังสรรค์ในมุมส่วนตัวได้ เช่น เราอยากทานชาบูปิ้ง-ย่าง แต่ไม่อยากออกไปข้างนอกเพราะยังอยู่ในช่วงSocial Distancing สามารถสั่งทางโรงแรมให้เขาจัดเตรียมได้เลย ใครที่ชอบถ่ายรูปอัพลงโซเชียล น่าจะถูกใจ โดยส่วนตัวดิฉันชอบมากนะ ไม่คิดว่าจะหามุมสงบแบบนี้ในพัทยาได้ เตียงนอนดูดวิญญาณมาก นอนสบาย เรียกว่าได้มาพักจริงๆ เป็นอีกหนึ่งโรงแรมในลิสต์ที่ประทับใจมาก ถ้ามีเวลาว่างอีก อยากจะพาลูกพาครอบครัวมาพักที่นี่อีก
ช่วงวิกฤตโควิด-19 ณ เวลานี้เที่ยวต่างประเทศไม่ได้ ดิฉันกับสามีหันมาเที่ยวในเมืองไทยมากขึ้น สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทยมีอะไรที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเราเยอะมาก ตอนนี้เราเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางโครงการ Let’s getaway เพราะมีสิทธิพิเศษมากมายชอบมาก หลังคลายล็อกดาวน์เราวางแผนอยากไปเที่ยวหลายจังหวัด เช่น ทางภาคใต้อยากไปพักที่ซิกเซ้นส์สมุย ชอบเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หรืออมันปุรี จ.ภูเก็ต ถึงจะเป็นเมืองชายทะเลที่มีคนเยอะ แต่เราเลือกไปพักโรงแรมที่เงียบสงบได้ ยังมีอีกที่ที่อยากไปคือ อนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท จ.เชียงราย
หาแหล่งข้อมูลก่อนทริปเที่ยวในประเทศ
เวลาเราจะไปเที่ยวพักผ่อนแต่ละครั้งดิฉันหาข้อมูลจาก www.letsgetaway.asia เราจะได้เห็นภาพจริง เป็นภาพจากสภาพแวดล้อมจริงๆ บรรยากาศจริงจากสถานที่นั้นๆ แต่ถ้าอยากหาไกด์ไลน์เวลาถ่ายภาพ เช่นถ่ายภาพมุมไหนสวย มุมเก๋ๆ ก็จะเลือกดูจากไอจี ส่วนใหญ่ดิฉันจะหาข้อมูลท่องเที่ยวจากพวกโซเชียลต่างๆ อย่าง โรงแรม X2 Pattaya Oceanphere ตั้งแต่เห็นรูปอยู่ในสื่อพวกโซเชียล รู้สึกว่ามัน ว้าว…นะ เห็น architect มันแปลกดี มีดารา บล็อกเกอร์ถ่ายรูปลงไอจีเยอะ อีกอย่างใน www.letsgetaway.asia ตามแคมเปญ Let’s getaway ของทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยช่วงนี้จัดโปรโมชั่นโรงแรมในราคาพิเศษอีก ตรงใจมากค่ะชอบมาก ส่วนตัวดิฉันคิดแบบนี้นะว่าช่วงวิกฤตโควิด-19 ออกไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ สถานการณ์ที่เมืองไทยปลอดภัยกว่ากันเยอะ ดิฉันกับสามีเราคุยกันและตกลงกันว่าไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก ก็พักผ่อนอย่างหรูหรามีสไตล์ในแบบของเราได้ เที่ยวไทยแล้วยังได้ช่วยเหลือคนไทยช่วงวิกฤตอย่างนี้เราคนไทยต้องช่วยกันแล้วล่ะ
เป็นนักท่องเที่ยวสายไหน สายแอดเวนเจอร์ สายกิน หรือ สายชิลล์
ดิฉันและครอบครัวไม่ใช่นักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์เท่าไร จะเป็นสายนอนชิว สบาย สบาย ชอบโรงแรมที่มีดีไซน์เก๋ สวย หรือเป็นประเภทบูทีค ถ้าเลือกได้ขอเป็นเชนโรงแรมที่ไว้ใจได้ คือเราทำงานเต็มที่ เวลาพักผ่อนก็เต็มที่ เป็นการให้รางวัลชีวิตกับ
ตัวเองและครอบครัวไปในตัว การไปเที่ยวของดิฉันจะเป็นการไปพักผ่อนจริงๆ เรียกได้ว่าให้โรงแรมเป็น Destination เข้าโรงแรมแล้วแทบไม่ไปไหนเลย ถ้าจะออกไปเที่ยวข้างนอกจะไม่ไปไหนไกล จะไปเที่ยวชุมชนใกล้ๆ ที่พัก สัก3-4 โมงเย็นก็จะกลับเข้าโรงแรมแล้ว
ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมาส่งผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร
ในแง่ของการทำธุรกิจเราได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 เพราะฉะนั้น เราต้องนิ่งค่อยๆ คิดแก้ปัญหาเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ในแง่ของการเดินทางท่องเที่ยวชีวิตปกติของครอบครัวเราจะไปเที่ยวกันทุกเดือน ไม่ได้ไปเที่ยวเมืองไทยก็ไปเมืองนอก อย่างประเทศญี่ปุ่นแทบจะไปเดือนเว้นเดือน พอช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ช่วงล็อกดาวน์ไปไหนไม่ได้ ไปเที่ยวไม่ได้ แรก ๆ ก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกันนะ ไม่ได้นั่งเครื่องบินเป็นเดือน ๆ ตัวดิฉันเองรู้สึกแปลกๆ เพราะชีวิตปกติต้องเดินทางตลอด ช่วงที่รัฐบาลคลาย ล็อกดาวน์อนุญาตให้เที่ยวได้ ดิฉันกับสามีวางแผนไปเที่ยวเลย เช็คสายการบินเช็คโรงแรมเปิด booking ปุ๊บ เราจองตั๋วเดินทางทันที ไปพัก 4-5 คืน คือมันอัดอั้นมาก เพราะครอบครัวเราเป็นสายเที่ยวชอบเที่ยวกันทั้งบ้าน
ข้อคิดและมุมมองจากวิกฤตโควิด-19 และการท่องเที่ยวในไทย
จากประสบการณ์ตัวดิฉันเองในแง่ธุรกิจเราต้องมีสติค่อยๆ คิดแก้ปัญหากันไป ส่วนเรื่องท่องเที่ยวเมื่อก่อนถ้าเรามีเวลามากกว่า 3 วัน 4 วัน ครอบครัวเราจะไปเที่ยวต่างประเทศ แต่พอช่วงวิกฤตโควิด-19 ทำให้เราหันกลับเที่ยวในเมืองไทยมากขึ้น เพราะว่าประเทศไทยเป็น Destination ระดับโลก คนต่างประเทศก็มากันเยอะ เมืองไทยยังมีอะไรที่จะเกิดขึ้นเพิ่มเติมมาใหม่เรื่อยๆ มีDestination ดี ๆ เยอะ ที่สำคัญทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมักจะมีแคมเปญดีๆ กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพอร์เฟกต์มากโรงแรมที่สามารถตอบโจทย์เราก็มีเยอะมาก ดิฉันได้ลองสัมผัสเดินทางท่องเที่ยวในประเทศแล้วอยากให้คนเที่ยวเมืองไทยเยอะๆ เพราะมีของดีมากกว่าที่คิด และต่อไปนี้ดิฉันและครอบครัวจะวางแผนเที่ยวเมืองไทยอย่างจริงจัง