กกล.บูรพาฉก.อรัญฯ สระแก้ว ร่วมบูรณาการ จับไอซ์-เฮโรอีนล๊อตใหญ่ 11 กก.เศษ มุ่งหน้าชายแดน จ.สระแก้ว พร้อมผู้ต้องหา 3 คน ขณะมุ่งหน้าข้ามชายแดน
เจ้าหน้าที่ทหารพราน-ตำรวจ สภ.คลองลึก จับกุมยาเสพติดล๊อตใหญ่ ยาไอซ์ 10 กก.และเฮโรอีน 1 กก.เศษ ขณะกำลังลำเลียงเส้นทางมุ่งหน้าชายแดนตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา สั่งให้ พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ รอง ผบ.กองกำลังบูรพา กำชับกองกำลังชายแดน โดยแจ้งประสานกับ พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 12 และ ฉก.อรัญประเทศ กองกำลังบูรพา เพื่อให้เข้มงวดการปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบตามแนวชายแดนตามช่องทางธรรมชาติ สินค้าผิดกฎหมาย และการลักลอบขนยาเสพติดให้โทษข้ามแดน โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่ ชค.ทพ.12 ร่วมบูรณาการกับ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึก ,พ.ต.ท.ภูมิสิษฐ์ ตั้งวิทย์เดชา รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึก และ พ.ต.ท.ณัฐพล ชนะศุภกาญจน์ สวป.สภ.คลองลึก จัดชุดปฏิบัติการเฝ้าตรวจเพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย ตามมาตรการเข้มงวดในช่วงโควิด-19 ในพื้นที่รับผิดชอบ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก ว่าได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติด ในพื้นที่รับผิดชอบ จึงขอรับการสนับสนุนกำลังพล และร่วมตั้งด่านสกัดจับที่บริเวณสี่แยกบ้านท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กระทั่งเมื่อถึงเวลาประมาณ 13.00 วันนี้(14 ส.ค.) ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถยนต์เก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรล่า ทะเบียน กจ-3574 สระแก้ว วิ่งมาตามถนนเส้นทางบ้านด่าน-โรงเกลือ มุ่งหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา มาที่ตลาดโรงเกลือ เมื่อมาถึงสี่แยกบ้านท่าข้าม เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นรถคันดังกล่าวทันที
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เปิดเผยว่าโดย มีบุคคลจำนวน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ทราบชื่อต่อมาว่า นายชลวิทย์ ศุขวิทย์ ,นายอดิศร จอมกระโทก และนางหลวย ศรีทอง จากการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 10 ถุง น้ำหนักรวมถุง ประมาณ 10.610 กิโลกรัม และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวน 3 กล่อง น้ำหนักรวมกล่องและหีบห่อประมาณ 1.130 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในรถคันดังกล่าว จึงควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวน เพื่อดำเนินการขยายผลจับกุมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่า เป็นเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มเดียวกับที่เจ้าหน้าที่สกัดจับได้ก่อนหน้านี้ จำนวน 22 กก.หรือไม่ และอยู่ระหว่างการขยายผลของเจ้าหน้าที่ในขณะนี้
ขอขอบคุณภาพข่าวจาก ไตรรัตน์ มีวงษ์