กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา ยังคงใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเดินทางข้ามชายแดนเข้ามาตรวจสอบสินค้าในตลาดโรงเกลือ อย่างต่อเนื่อง โดยพ่อค้าแม่ค้ากัมพูชา จะต้องอยู่ในกรอบพื้นที่ที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวดและจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองป้องกันโควิด-19 ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเข้มงวด
ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, ทหารพรานร้อย 1201,ตำรวจภูธร สภ.คลองลึก และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายหน่วยงาน เข้าทำการตรวจสอบเอกสารการเดินทางข้ามชายแดน และเอกสารกำกับรถยนต์ส่วนบุคคลของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่เดินทางข้ามชายแดนเข้ามาตรวจสอบสินค้าของตนเองในตลาดโรงเกลือฝั่งประเทศไทยตามข้อตกลงของจังหวัดสระแก้ว ที่ผ่อนผันให้พ่อค้าแม่ค้ากัมพูชาสามารถใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เดินทางข้ามชายแดนเข้ามาตรวจสอบหรือนำสินค้าของตนเองและสามารถนำกลับไปฝั่งประเทศกัมพูชาได้วันละไม่เกินวันละ 50 คัน และมีผู้ติดตามมากับรถได้ไม่เกิน 2 คนร่วมกับคนขับรถ และจะต้องเดินทางกลับประทศกัมพูชาไม่เกินเวลา 13.00 น.เท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจะกำหนดพื้นที่ให้เข้ามาได้เพียงวันละ 1 ตลาดเท่านั้น ซึ่งในวันนี้เป็นคิวของตลาดโกเด้เกตุ มีรถยนต์ส่วนบุคลข้ามชายแดนเข้ามาจำนวน 47 คัน พ่อค้าแม่ค้ากัมพูชาจำนวน 93 คน
ด้านพ่อค้าชาวกัมพูชาบอกว่ารู้สึกดีในที่มีโอกาสเดินทางข้ามชายแดนเข้ามาตรวจสอบสินค้าของตน เพราะที่ผ่านมาเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้วไม่ได้เข้ามาตรวจสอบสินค้าเลย เนื่องจากรัฐบาลไทยและกัมพูชาสั่งปิดชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 วันนี้ตนได้เปิดร้านตรวจสอบสินค้าแล้วยังอยู่ครอบไม่มีอะไรเสียหายแต่อย่างใด ส่วนที่ฝ่ายไทยอนุญาตให้พวกตนสามารถขนสินค้ากลับไปฝั่งประเทศกัมพูชาได้นั้น พวกตนคงจะไม่ขนสินค้ากลับไปฝั่งประเทศกัมพูชาอย่างแน่นอน เนื่องจากขนกลับแล้วไม้รู้ว่าจะขายให้ใคร พวกตนจะเก็บสินค้าไว้ในตลาดโรงเกลือเพื่อรอให้รัฐบาลทั้งสองประเทศเปิดชายแดน จะได้ทำมาค้าขายกันเหมือนเดินถึงแม้จะนานแค่ไหนก็จะรอ เพราะในฝั่งประเทศกัมพูชาไม่มีอาชีพอื่นๆให้พวกตนทำ
ขอขบคุณภาพข่าวจาก ไตรรัตน์ มีวงษ์