ตำรวจ สภ.และกก.ตร.ศรีราชา เปิดรุกแจ้งข่าว ในการฝึกอบรม “โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล”  ให้แก่ตัวแทนชุนชนแต่ละตำบลกว่า 100 คน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าระวังและป้องกันเหตุสร้างความเข้มแข็งในชุมชน โดยการแจ้งผ่านไลน์ แอพพลิแคชั่น

ที่ ห้องประชุมหลังเล็กศาลาประชาคมอำเภอศรีราชา  จังหวัดชลบุรี   พ.ต.ท.ตรงศักดิ์ เพชรหาญ รอง ผกก.ป.สภ.ศรีราชา ได้เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม  “โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล” สถานีตำรวจภูธรศรีราชา ขึ้น  โดยมี นายรัตนะ ขาวผ่อง  ที่ปรึกษา กก.ตร.สภ.ศรีราชา พร้อมคณะ กก.ตร.สภ.ศรีราชา  ตัวแทนนายกิตติศักดิ์ กิจโชคเจริญสกุล ประธาน กต.ตร.สภ.ศรีราชา  พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยากรให้ความรู้ สภ.ศรีราชา และผู้เข้ารับการอบรมเครือข่ายจิตอาสาชุมชน กว่า 100 คน เข้าร่วมอบรมในวันนี้ เพื่อร่วมเป็นหูเป็นตาในการร่วมแก้ปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติด ในแต่ละชุมชน  ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ที่ได้ให้ความสนใจและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับปัญหาที่เกิดขึ้น  จึงได้หามาตรการในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา ประกอบกับหาวิธีการแก้ไขให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมและสามารถป้องกันปราบปรามอาชญากรรมให้ลดลงในพื้นที่ได้อย่างจริงจัง

เนื่องจากปัจจุบันอำเภอศรีราชา นั้น มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสูง และประชาชนเข้ามาทำงานและอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากขึ้นจึงอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากขึ้น  ทั้งยังมีผู้ก่อเหตุแอบแฝงเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้นด้วย จึงอาจทำให้ประชาชนในพื้นที่และที่เข้ามาทำงานและพักอาศัยอยู่อาจได้รับผลกระทบจากการก่ออาชญากรรมในพื้นที่ไม่โดยทางตรงก็ทางอ้อมได้

ดังนั้น “โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล” ของ สถานีตำรวจภูธรศรีราชา ที่จัดขึ้นนี้  ทางประชาชนจะสามารถสนับสนุนด้านการแจ้งข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เป็นอย่างดี และเกิดผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมากในการที่จะเข้าควบคุมแก้ไขและจับกุมผู้กระทำผิด และการฝึกอบรมในครั้งนี้ ทราบว่าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ และร่วมให้การสนับสนุนรวมตัวขึ้นมาทำประโยชน์ให้กับสังคม ในนามของ “ โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล” สถานตำรวจภูธรศรีราชา  ทางเจ้าหน้าที่จึงเชื่อมั่นว่าท่านที่เข้ารับการฝึกอบรมครั้งนี้ จะได้รับความรู้ ความชำนาญและได้ประสบการณ์พอที่จะนำไปใช้ปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในชุมชน และสามารถเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือเจ้าพนักงานตำรวจแจ้งเบาะแส ในการจับกุมการกระทำผิดให้ได้รับโทษตามความผิดนั้น

พ.ต.ท.ตรงศักดิ์ เพชรหาญ รอง ผกก.ป.สภ.ศรีราชา เปิดเผยว่า  ตามที่รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ได้สั่งการให้แต่ละ สภ. จัดกิจกรรมฝึกอบรมเพื่อสร้างเครือข่ายแบบบูรณาการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับตำบลและท้องถิ่น  เพื่อแก้ไขป้องกันปัญหา  เนื่องจากในปัจจุบันปัญหาทางเศรษฐกิจ และจากภัยของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ทำให้สภาพปัญหาในสังคมทำให้ประชาชนมีความเดือดร้อนมากขึ้น กับทางเศรษฐกิจ และสภาพสังคมที่มีความซับซ้อนขึ้น จนทำให้ปัญหาอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้นจึงได้มีโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในภารกิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยการเป็นหูเป็นตาเพื่อแจ้งข่าวให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบเพื่อเข้าไปป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่จะเกิดหรือเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเพื่อลดสถิติปัญหาอาชญากรรมให้ลดลงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

สำหรับแนวทางนี้จะสามารถช่วยแก้ไขและป้องกันปัญหาอาชญากรรมให้ลดลงได้ ก็ต้องมีมาตรการป้องกันและจะต้องอาศัยการสร้างภาคีเครือข่าย กับทุกภาคส่วน เช่นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ภาคเอกชน และประชาชน เข้ามามีบทบาทมีส่วนร่วม เพื่อที่จะทำให้การปกป้องแก้ไขปัญหาอาชญากรรมนั้นบรรลุเป้าหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการสร้างเครือข่ายให้กับจิตอาสาภาคประชาชน มีส่วนร่วมในการ แก้ไขปัญหาอาชญากรรมในระดับตำบล ทุกสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศ และโครงการนี้ในแต่ละท้องที่ แต่ละสถานีตำรวจภูธร นั้น จะจัดฝึกอบรมประชาชนจิตอาสา ให้มีการสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังภัย ทุกตำบล  โดย สภ.ศรีราชา นั้นมีผู้เข้าร่วมจำนวน 100 คน เพื่อทำการฝึกอบรมเครือข่ายจิตอาสาชุมชน เฝ้าระวังป้องกันเหตุแจ้งเบาะแสข่าวสารต่างๆในชุมชน ให้กับทาง สภ.ศรีราชา  โดยแจ้งผ่านทางไลน์ แอพพลิแคชั่น ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งขึ้นให้กับผู้เข้าอบรมในวันนี้  เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา ต่างๆในชุมชน เช่น ปัญหาความ ขัดแย้ง ปัญหาความเดือดร้อนของคนในชุมชน  ปัญหายาเสพติด  ปัญหาลักเล็กขโมยน้อย เป็นต้น

ซึ่งหากประชาชนในแต่ละชุมชนที่มาร่วมโครงการฝึกอบรมนี้แล้วมีความเข้มแข็ง นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชุมชน ก็จะเกิดประโยชน์แก่ชุมชนของตัวเองมากขึ้นด้วย และอาจสร้างภูมิคุ้มกันเข้มแข็งให้แก่ชุมชนได้ไม่น้อย  แล้วปัญหาต่างๆ รวมถึงปัญหายาเสพติดก็จะหมดสิ้นไปในแต่ละชุมชนด้วย

ขอขอบคุณภาพข่าวจาก สมชาย  แก้วนุ่