ชาวบ้านปากคลองบางนางรม เดือดร้อนหนัก วอนหน่วยงานรัฐเร่งขุดสันดอนทราย
วันที่ 19 กรกฎาคม นางวันดี สุขเจริญ อายุ 56 ปี เกษตรกรเลี้ยงหอยนางรมในคลองบางนางรม ชุมชนปากคลอง เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนและชาวบ้านกว่า 60 ราย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากประกอบอาชีพเลี้ยงหอย ปูดำ ปูม้า กระชังปลากะพง และปลาเก๋า พื้นที่กว่า 100 ไร่ ในคลองบางนางรมนานกว่า 30 ปี เนื่องจากน้ำในคลองไม่หมุนเวียนตามธรรมชาติ หลังจากมีทรายทะเลพัดปิดปากคลองใกล้สะพานคลองบางนางรม ทำให้น้ำในคลองกลายเป็นน้ำจืด ไม่มีน้ำเค็มไหลจากทะเลทำให้สัตว์น้ำที่เลี้ยงไว้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่พื้นที่เลี้ยงสัตว์น้ำใกล้กับเขาช่องกระจกแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังและ ห่างจากศาลากลางจังหวัดเพียง 500 เมตร
“นอกจากนี้ ยังมีปัญหา หอยกะพงซึ่งเป็นหอยขนาดเล็ก เกาะที่ฝาหอยนางรม และแย่งอาหาร ส่งผลให้หอยหยุดเติบโตหรือโตช้ามาก ขณะที่ระยะเวลาในการเลี้ยงหอยจากวัยอ่อนจนถึงขนาดใหญ่ใช้เวลา 6 – 7 เดือน และในช่วงสองปีที่ผ่านมา มีเส้นสีส้มหรือหมี่กรอบเกาะที่ฝาหอยจำนวนมาก ทั้งที่ในอดีตไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะรุ่นบรรพบุรุษที่ประกอบอาชีพเลี้ยงหอยตามธรรมชาติ”นางวันดี กล่าว
นายวันดี กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด – 19 ตั้งแต่กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หอยนางรมและสัตว์น้ำประเภทอื่นไม่สามารถนำไปจำหน่ายได้ เนื่องจากลูกค้าหลักเป็น ร้านอาหารและโรงแรม เมื่อร้านอาหารและโรงแรมถูกปิดทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยว ชาวบ้านจึงขาดรายได้นานกว่า 4 เดือน ขณะที่ปัจจุบัน เริ่มขายหอยนางรมได้วันละประมาณ 10 กิโลกรัม ( กก.) สำหรับหอยตัวเล็กที่แกะแล้วขายพ่อค้าคนกลาง กก.ละ 120 บาท ส่วนหอยขนาดใหญ่สำหรับรับประทานสดขายตัวละ 4 -5 บาท จึงขอให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือชาวบ้านด้วยการขุดลอกสันดอนทรายเร่งด่วน เพื่อเปิดทางให้น้ำทะเลและน้ำจืด ไหลเข้าออกได้ตามธรรมชาติ
พิสิษฐ์ รื่นเกษม ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์