ชาวบ้านแห่อาบน้ำมนต์บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์หลวงปู่สรวง
กลางป่าเขาชายแดนไทย-กัมพูชา คึกคัก ในช่วงวันหยุดยาว
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 ก.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าพลาญเพชร ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษา มีบรรดาพุทธศาสนิกชนจากหลายพื้นที่ ทั้งใน จ.ศรีสะเกษ และต่างจังหวัด แห่มาท่องเที่ยวและทำบุญไหว้พระ สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา เสริมบารมี อาบน้ำมนต์บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์หลวงปู่สรวง บนยอดเขาตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก อย่างคึกคักตลอดทั้งวัน เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของช่วงวันหยุดยาว เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ก่อนที่จะเดินทางกลับไปทำงานต่อในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 8 ก.ค.)
ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเมื่อได้อาบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากบ่อน้ำดังกล่าวแล้ว และจะประสบโชคดี แคล้วคลาดปลอดภัย อาการเจ็บป่วยจะทุเลาเบาบางลง ส่งผลทำให้จิตใจแจ่มใส ลดความทุกข์กายทุกข์ใจได้ และเจริญก้าวหน้าในการงานด้วย จึงมีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาที่วัดอย่างไม่ขาดสาย พร้อมทั้งได้พากันแห่กราบไหว้ขอพรพญางูใหญ่ หรือพญาศรีสุทโธนาคา ตามความเชื่อส่วนบุคคล
พระครูวัชรชยาภินันท์ เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร (ธ) เล่าว่า วัดแห่งนี้ เดิมเป็นสำนักสงฆ์ที่หลวงปู่สรวง ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เคยมาอาศัยอยู่ เมื่อปี 2535 ซึ่งในขณะนั้นพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าเขา ยังไม่ได้ตั้งเป็นวัด มีเพียงหลวงปู่สรวง รูปเดียว ที่มานั่งสมาธิปฏิบัติธรรมอยู่ภายในกุฏิบนเขาแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันกุฏิหลังดังกล่าวได้ชำรุดทรุดโทรมเหลือเพียงเสาไม้ 4 เสา ที่ยังเหลือให้เห็นเป็นบุญตา และมีบ่อน้ำธรรมชาติอยู่ข้างกุฏิ ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่มีน้ำตลอดทั้งปี ขนาดบ่อกว้าง 1.5 เมตร ยาวประมาณ 2 เมตร ใต้น้ำเต็มไปด้วยโขดหินสลับซับซ้อน ในขณะนั้นหลวงปู่สรวง ได้เคยใช้น้ำในบ่อน้ำดังกล่าว ใช้ดื่ม กิน และอาบ เพียงรูปเดียวตลอดระยะเวลา จึงมีชาวบ้านที่เคารพศรัทธาหลวงปู่สรวง แห่มาอาบน้ำมนต์จากบ่อน้ำดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ
ขอขอบคุณภาพข่าวจาก บุญทัน ธุศรีวรรณ