เขยโหด ฆ่า 3 ศพ ! ชัก 9 ม.ม.จ่อยิงสาว-น้อง-แม่ ดับคาที่สยอง 3 ศพ ปมหึงหวงสามีเก่า

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 3 ก.ค. ร.ต.อ.(หญิง) จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บริเวณถนนมหาสิทธิโชค เขตเทศบาลฯ อ.เมือง จ.นครพนม จึงรุดไปพร้อม พ.ต.อ.ณรงค์ นาคทั่ง รอง ผบก.ภ.จ.นครพนม พ.ต.อ.วรเพชร เพชรบรม ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ท.คำดี เฮียงบุญ รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.จีรุจฎ พิมพ์พา รอง ผกก.สืบสวนฯ แพทย์เวร รพ.นครพนม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ชุดสืบสวน กู้ชีพศรีสัตตนครพนม กู้ภัยนครพนม กู้ภัยลำโขงเฟรนด์ชิฟ และรถกู้ชีพ 1669

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลนตัดใหม่ หน้าตลาดคลองถมมหาสิทธิโชค ฝั่งทางไปชลประทาน ริมฟุตบาธ พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ 4 ประตู ทะเบียน งบ 1003 ชลบุรี พื้นถนนข้างรถประตูฝั่งขวา พบศพ น.ส.จิตรา เชียงใบ อายุ 29 ปี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน 2 นัดเข้าที่ศีรษะและสีข้าง เสียชีวิตคาที่  ริมฟุตบาธประตูรถฝั่งซ้าย พบศพ น.ส.สุจิตรา เชียงใบ อายุ 23 ปีถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด และนางลาวัลย์ เชียงใบ วัย 45 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันที่ศีรษะ 1 นัด ทั้งคู่เป็นน้องสาวและมารดา น.ส.จิตรา ผู้ตายทั้งหมดเป็นชาว บ.ท่าค้อ หมู่ 4 ต.ท่าค้อ อ.เมือง ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 9 ม.ม. ตกอยู่กึ่งกลางถนน 4 ปลอก และหัวกระสุนอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนคนขับรถกระบะคันดังกล่าว และเป็นมือปืนทราบชื่อนายนพดล อ้วนสำลี วัย 42 ปี มือปืน ชาวพัทยา จ.ชลบุรี หลังก่อเหตุสลดได้ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สกรู๊ปปี้ไอ สีชมพูขาว หลบหนีไปผ่าน 3 แยกชลประทาน มุ่งไปตามถนนเฟื่องนคร คาดว่าจะมุ่งหน้าไปที่โรงเรียนอนุบาลนครพนม เจ้าหน้าที่จึงวิทยุสกัดจับ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้พบรถ จยย.ต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้ง พบนายนพดล ขับรถ จยย.คันดังกล่าว ซ้อนเด็กหญิงนักเรียนวัย 4-6 ขวบ คาดว่าเป็นบุตรสาวของ น.ส.จิตรา ผู้ตาย แต่งกายชุดนักเรียนนั่งซ้อนท้ายนายนพดล โดยมือปืนที่ก่อเหตุขับผ่าน บขส.นครพนม มุ่งหน้าผ่าน 3 แยกชลประทาน ขับย้อนศรเพื่อมาจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงบุกชาร์จเข้าจับกุมตัวได้ที่หัวมุมปากทางเข้าถนนมหาสิทธิโชค หน้าร้านเล็กประดับยนต์
โดยเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายนพดลนั้น มือปืนเหี้ยมรายนี้ได้ชูมือขึ้นเหนือหัวพร้อมบอกว่า ยอมแล้วๆ เจ้าหน้าที่จึงรีบชาร์จจับกุมตัวได้ในที่สุด ลำตัวสะพายกระเป๋าสีน้ำตาล ตรวจสอบพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ซีแซด เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองนครพนม

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายนพดล ขับรถกระบะมากับ น.ส.จิตรา แฟนสาว นั่งเบาะข้างออกจากบ้านเช่าเอื้ออาทร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 900 เมตร เพื่อจะไปรับบุตรสาวของ น.ส.จิตรา ที่โรงเรียนอนุบาลนครพนมหลังเลิกเรียน ระหว่างทางเกิดทะเลาะมีปากเสียงบนรถกระบะ นายนพดลจึงจอดรถริมฟุตบาธ เพื่อเคลียร์ปัญหาคาใจ เนื่องจากนายนพดล มือปืนจับได้ว่า น.ส.จิตรา ซึ่งเคยมีสามีแล้วและมีบุตร 1 คนเรียนอยู่ที่โรงเรียนดังกล่าว

ซึ่ง น.ส.จิตรา แฟนสาวทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่พัทยา จ.ชลบุรี ได้มาคบหานายนพดล มานาน 1 ปีเศษและอยู่กินกับนายนพดลที่บ้านเช่าเอื้ออาทรนานกว่า 1 เดือนแล้ว แต่ระยะหลังพบเห็น น.ส.จิตรา คุยทักแชทในเฟซบุ๊คกับสามีที่มีบุตรด้วยกัน 1 คน เลยเกิดความหึงหวง ขณะทะเลาะกัน น.ส.จิตรา ได้โทรศัพท์เรียก น.ส.สุจิตรา และนางลาวัลย์ น้องสาวและมารดา มาจุดเกิดเหตุ เมื่อมาถึงมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง ก่อนที่นายนพดล จะชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมาในกระเป๋า จ่อยิง น.ส.จิตรา แฟนสาวคนแรก และจ่อยิง น.ส.สุจิตรา พร้อมนางลาวัลย์ เสียชีวิตคาที่ 3 ศพดังกล่าว

หลังเกิดเหตุได้มี น.ส.รัชดาภรณ์ ทองคลี วัย 25 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวของ น.ส.สุจิตรา เมื่อพบศพ น.ส.รัชดาภรณ์ ร่ำไห้ระงมนานกว่า 30 นาทีปิ่มใจจะขาด ญาติที่เดินทางมาจุดเกิดเหตุ ต้องรีบประคองตัวออกจากจุดเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเชือกมาโรยกั้นที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันไม่ได้บุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าไปโดยเด็ดขาด เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

ขณะนายไพจิตร เขียวใบ อายุ 60 ปี สามีของนางลาวัลย์ น.ส.จิตรา และ น.ส.สุจิตรา ผู้ตาย กล่าวว่า ตนมีอาชีพขับรถสามล้อเครื่อง ก่อนเกิดเหตุนายนพดล มือปืน ได้ขับรถกระบะซ้อน น.ส.จิตรา บุตรสาว ออกจากบ้านเช่าเอื้ออาทร ก่อนนี้ทั้งคู่มีเรื่องระหองระแหง ทะเลาะเบาะแวงกันมาก่อนแล้ว ก่อนที่จะชักชวนกันไปรับหลานสาวตน ซึ่งเป็นบุตรสาวของ น.ส.จิตรา บุตรสาวคนโต ก่อนที่จะก่อเหตุยิงบุตรสาวตน 2 คนและภรรยา น.ส.สุจิตรา ได้โทรศัพท์เรียกภรรยาและลูกสาวตนคนเล็ก ก่อนที่จะก่อเหตุยิง 3 ศพรวด ตนมาทีหลังพอมาที่เกิดเหตุก็พบกับศพทั้ง 3 คน นอนจมกองเลือดเสียชีวิตหมดแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.วรเพชร กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายไพจิตร สามีและพ่อผู้ตาย ในเบื้องต้น คาดว่าจะเกิดจากปมหึงหวง จึงก่อเหตุยิง น.ส.จิตรา และ น.ส.สุจิตรา พร้อมนางลาวัลย์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จนสามารถจับกุมผู้ลงมือก่อเหตุได้อย่างทันท่วงที

ภาพ/ข่าว เทพพนมรายงาน