พระอาจารย์วัดป่าร้องสื่อขอความเป็นธรรม หลังโยมมาทำบุญที่วัด ถูกตำรวจตั้งด่านเรียกรับเงิน 40,000 บาท
จากกรณีพระวัดป่าใน ต.ดงเย็น อ.เมือง จ.มุกดาหาร พาโยมที่มาทำบุญที่วัดแล้วถูกตำรวจตั้งด่านตรวจฉี่ปรากฏว่าผลออกมาเป็นสีม่วง และมีการเรียกรับเงินจำนวน 40,000 บาท ในเวลาต่อมาและเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 63 ได้เข้าร้องเรียนกับสื่อในจังหวัดมุกดาหาร แล้วมีการไลฟ์สด ผ่านเพจเฟสบุ๊ค จนมีการแชร์และมีการกล่าวถึงเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่วัดป่าเทพนิมิต ต.ดงเย็น อ.เมือง จ.มุกดาหาร ได้พบกับ พระอาจารย์คำนวณ ฐิตญาโณ เจ้าอาวาสวัดป่าเทพนิมิต ได้ให้ข้อมูลว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงเป็นเรื่องที่เกิดกับโยมที่มาทำบุญที่วัดเป็นชาวจังหวัดขอนแก่น โดยได้มาส่งญาติเพื่อปฏิบัติธรรม ชื่อว่านายสำเนียง มโนทัย อายุ 46 ปี และ นาย สุริยัน แสนเมือง อายุ 63 ปี เป็นชาว ต.โคกสี อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เมื่อส่งญาติเสร็จทั้ง 2 คน ได้ขับรถเพื่อจะกลับจังหวัดขอนแก่น โดยใช้เส้นทาง หนองพอก-หนองสูง เมื่อถึงด่านตรวจมีเจ้าหน้าที่ 6 นาย ได้ทำการขอตรวจสารเสพติด แยกบริเวณวัดภูจ้อก้อ โดยผลออกมาพบปัสสาวะ นายสำเนียง มโนทัย เป็นสีม่วง
ต่อมาได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลหนองสูง ผลที่ออกมาก็เป็นบวกเช่นเดิม แต่ไม่มีเอกสารยื่นยัน นายสำเนียง ถึงกับงง เพราะตัวเองไม่เคยข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ที่ผ่านมาก็กินแค่ยาพวกโรคเบาหวาน โรคเก๊า ความดัน ต่อมาเจ้าที่ได้เรียกรับเงิน 40,000 บาท จึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากพระอาจารย์คำนวณ ฐิตญาโณ พร้อมกับได้มีการต่อรองลดเหลือ 15,000 บาท และได้มีการจ่ายเงินกันที่ข้าง สภ.หนองสูง ในเวลา 19.00 น. วันที่ 21 มีนาคม 63
พระอาจารย์คำนวณ ฐิตญาโณ กล่าวว่า ที่เข้าไปร้องสื่อในครั้งนี้ต้องการแค่ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ทำตัวแบบนี้ เพราะที่ผ่านมามีหลายครั้งแต่ไม่อยากจะทำอะไรมากมาย ในการกระทำผิดครั้งนี้มีหลายข้อและตอนนี้ในการดำเนินการทางกฎหมาย ได้พาผู้เสียหายเข้ายื่นหนังสือต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร โดยได้นำหลักฐานไม่ว่าจะเป็น ผลการตรวจปัสสาวะ คลิปเสียง พร้อมหลักฐานประกอบต่างๆ ส่วนในเรื่องของการตรวจปัสสาวะนั้นได้พานายสำเนียง ไปตรวจที่โรงพยาบาลหนองพอก จ.ร้อยเอ็ด ปรากฏว่าไม่เจอสารเสพติด จึงทำให้ผล 2โรงพยาบาลขัดแย้งกันต้องพิสูจน์กันอีกครั้ง
ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มตำรวจที่ถูกกล่าวหา เข้ามาหาเพื่อเจรจากับพระอาจารย์แต่ทางพระได้บอกกับกลุ่มตำรวจว่าให้ว่ากันไปตามกฎหมาย ที่จริงแล้วก็ไม่อยากไปร้องสื่อและยื่นหนังสือต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร แต่ก็ต้องว่ากันไปตามความถูกต้องสำหรับข้อสงสัยทำไมถึงร้องสื่อช้าเพราะกำลังคิดกลับไปกลับมาว่าจะดำเนินการเอาเรื่องหรือไม่ จนมาถึงวันนี้จึงตัดสินใจเข้าร้องสื่อและยื่นเรื่องร้องเรียน
ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร