เหตุสลด!! แซงไม่พ้น หนุ่ม 21 ขับกระบะแต่งซิ่ง แซงไม่พ้น พุ่งประสานงา 6 ล้อบรรทุกควายสนั่น เละเป็นซาก

หนุ่มขับกระบะดับ ส่วน 6 ล้อเจ็บสาหัส 2

เมื่อเวลา 17.20 น.วันที่ 25 พ.ค.63 ร.ต.อ.พินิจ สมลี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ป่าติ้ว รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะประสานงากับรถบรรทุก 6 ล้อ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณถนนอรุณประเสริฐ เส้นทางยโสธร-ป่าติ้ว จุดบ้านคำเกิด ต.กระจาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสาน นายวิเศษ ปรีแผ้ว เจ้าหน้าที่ ปภ.ยโสธร นำรถยนต์กู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยคำเขื่อนแก้ว และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างร่วมใจยโสธรที่เกิดเหตุเป็นกลางถนนฝั่งขาออกตัวเมืองยโสธร มุ่งหน้า อ.ป่าติ้ว พบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน 83-0728 อุบลราชธานี ด้านหลังบรรทุกควายเพศเมีย 1 ตัว อยู่ในสภาพด้านหน้ารถชนประสานงากับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน บล 5070 ศรีสะเกษ ลักษณะแต่งซิ่ง จนรถขาดสองท่อน ส่งผลให้คนขับรถกระบะถูกอัดก็อปปี้เสียชีวิตคาที่ ทราบชื่อ นายเอกราช ส่วนบุญ อายุ 21 ปี เป็นชาวบ้านหนองแสง ต.โพธิ์ไทร อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ส่วนบริเวณที่นั่งคู่กับคนขับรถบรรทุก 6 ล้อ พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย ถูกอัดติดคาคอนโซนหน้ารถจนขาทั้ง 2 ข้างหัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งใช้เครื่องตัดถ่างเข้าช่วยเหลือ ก่อนนำตัวคนเจ็บออกจากซากรถ โดยใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง ส่วนคนขับรถบรรทุก 6 ล้อ ทราบชื่อ นายสอน (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นชาว อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่นำตัวส่งรักษาที่รพ.ยโสธร ก่อนหน้านี้แล้ว

จากการสอบถามผู้บาดเจ็บ ทราบว่า รถบรรทุก 6 ล้อ กลับจากตลาดนัดโค-กระบือ ที่ อ.เมืองยโสธร และกำลังพากันมุ่งหน้ากลับบ้านพักใน อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี โดยเดินทางมาด้วยกัน 2 คน และบรรทุกควายมาด้วย 1 ตัว

จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุมีฝนตกลงมาปรอยๆ ขณะนั้นได้เห็นรถกระบะที่วิ่งมาจาก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองยโสธร ด้วยความเร็วสูง พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางตรงและเป็นทางขึ้นเนิน เห็นรถกระบะขับแซงรถคันหน้าขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถบรรทุก 6 ล้อ วิ่งสวนทางมาปกติ จนทำให้รถทั้ง 2 คัน พุ่งประสานงากันอย่างจังเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนทำให้คนขับรถกระบะที่ขับมาคนเดียวเสียชีวิตคาที่ และคนขับรถบรรทุก 6 ล้อกับเพื่อนที่นั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว  เบื้องต้น ตำรวจจะเร่งสอบสวนให้ละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว ประยงค์ อินอ่อน เทพพนม รายงาน