ชาวบ้าน”สกลนคร”ตามคดีลักลอบตัดไม้พะยูง กลัวเป็นมวยล้ม น้อง ผตห.เป็นปลัดอำเภอต่างถิ่นช่วย ร้องสื่อตามเรื่อง ชาวบ้านไม่ยอมผู้มีอิทธิพล

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวและชาวบ้านว่า ได้มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่หมู่บ้านดงหม้อทอง ต.ดงหม้อทอง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ได้แอบลักลอบตัดไม้พะยูง และได้ทำการแปรรูปไม้หวงห้าม

แหล่งข่าวเผยว่า ผู้สั่งให้ตัดไม้พะยูงดังกล่าว อ้างว่าตัวเองว่าเป็นผู้ใหญ่บ้าน ชื่อ “นาย ส.”  และยังอ้างว่าตัวเป็นผู้กว้างขวางในแถบบ้านดงหม้อทอง ต.ดงหม้อทอง อ.บ้านม่วง จ.สกลนครอีกด้วย ซึ่งทางแหล่งข่าวและชาวบ้านทนกับพฤติกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายของผู้ที่ชอบอ้างรายนี้ไม่ไหวจึงได้เข้าแจ้งกับกำนัน”นายวิการณ์ ทองเฟื่อง” เพื่อทราบในเรื่องการกระทำของบุคลที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านและผู้กว้างขวางที่ครอบครองไม้หวงห้ามอยู่ ทางกำนันฯหลังทราบเรื่องแล้วได้ทำการเข้าตรวจยึดไม้พะยูงจำนวน 6 ท่อน ซึ่งได้ทำการแปรรูปแล้วบางส่วน และได้นำไปจัดเก็บไว้ที่ทำการกำนัน ต.ดงหม้อทอง อ.บ้านม่วง

ต่อมาแหล่งข่าวแจ้งว่า กำนันวิการณ์ ได้รับการติดต่อจากนายอำเภอบ้านม่วง “นายนวรัตน์ วงศ์ปิ่นเพ็ชร์” ให้เข้าไปพบนายอำเภอเพื่อมาให้ข้อมูลฯและความเป็นมาในเรื่องนี้ ซึ่งเมื่อกำนันได้เข้าไปพบนายอำเภอตามที่นัดหมายนั้น จนท.กลับไล่แหล่งข่าวและ ผชบ.คนอื่นๆให้ออกไปข้างนอก โดยนาย นวรัตน์ บอกว่า ” คนอื่นไม่เกี่ยวข้องให้ออกไปข้างนอก ก่อน”

ทั้งนี้ แหล่งข่าวแจ้งว่า นาย ส ที่อ้างว่าตนเป็นผู้ใหญ่บ้านและผู้กว้างขวางคนนี้ มีน้องชายเป็นปลัดอำเภอแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอาจจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำในครั้งนี้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แหล่งข่าวและชาวบ้าน จึงเกรงว่าเรื่องดังกล่าวอาจเงียบหายไปและผู้ที่ถูกกำนันจับนั้นจะรอดพ้นคดี เพราะก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2559 ก็เคยมีกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวคล้ายๆแบบนี้ ร่วมมือกันใส่ร้าย หลวงปู่ชาลี ญาณทโร ว่าเสพเมถุนกับสีกา และค้าไม้พะยูง จนเป็นข่าวโด่งดังมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง ชาวบ้านและแหล่งข่าวได้บอกกับสื่อมวลชนว่า พวกตนจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งนี้และจะไม่ยอมก้มหัวให้กับผู้ที่ชอบแอบอ้างและใช้อิทธิพลกับชาวบ้านหรือเพื่อทำให้ตนเองพ้นผิดได้อย่างแน่นอน ชาวบ้านจึงฝากไปถึงนายอำเภอฯให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เป็นไปตามพยานหลัดฐาน ตลอดจนไม้พะยูงที่เป็นหลักฐานที่กำนันได้ตรวจยึดมาให้ถึงที่สุด และชาวบ้านก็ยังบอกว่าจะคอยจับตาดูในคดีนี้ว่าจะเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่