ผอ. ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองช่วยเหลือนักเรียน ฟัน 5 ครูให้ออกจากราชการไว้ก่อน
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 63 ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ. พร้อมด้วยนายฉัรณรงค์ วงศ์พนารัตน์ นิกรชำนาญการพิเศษ สพม.22 นางจีระนันท์ เมืองจันทร์ ผอ.กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา สพม.22 ว่าที่ร้อยตรีพูนศักดิ์ พระรัตภูมี ศึกษาธิการจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกันแถลงข่าว กรณีเด็กนักเรียนโรงเรียนดงมอนวิทยาคม ถูกละเมิดทางเพศจากคุณครูที่สอนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน ทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดมุกดาหารมีคำสั่งให้ข้าราชการครู 5 คน ออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง
ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ. กล่าวว่า ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษา ซึ่งถูกละเมิดทางเพศ กระทรวงศึกษาธิการได้ทราบเรื่อง และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีบัญชาให้ลงพื้นที่ เนื่องจากว่าเป็นคดีที่เชื่อว่ามันมีมูลเหตุที่ชัดเจน และมันเป็นเหตุที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนซึ่งเราก็ไม่คาดคิดว่าจะมีครูจำนวนมาก ในภาพรวมส่วนใหญ่เป็นเพียงคนเดียว เมื่อมีจำนวนมากขนาดนี้ ท่านรัฐมนตรีห่วงใยเด็กนักเรียน ในเรื่องสุขภาพจิต ห่วงใยผู้ปกครอง ซึ่งจากการได้ลงพื้นที่ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร เพียงแต่ว่าอยากเห็นสภาพแวดล้อมใหม่ ก็โอเคเป็นเรื่องปกติของเด็กที่ได้รับผลกระทบ ส่วนเรื่องของคดีเราให้ข้าราชการครูทั้งหมด 5 ท่าน ออกจากราชการไว้ก่อน การออกจากราชการไว้ก่อน เสมือนหนึ่งเขาเองยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ก็มีการต่อสู้ตามขบวนการ แต่จากที่เราพูดคุยกับเด็ก และพบผู้ปกครอง โดยกระทั่งคุณครูและผู้อำนวยการ เด็กได้เล่าให้นักจิวิทยาฟัง ซึ่งเชื่อว่าสิ่งที่เด็กพูด เขาพูดจากความรู้สึกความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ กล่าวต่ออีกว่า ฉะนั้นในส่วนของการดำเนินการทางวินัยก็ดำเนินการไป ในเรื่องของคดีเป็นเรื่องของตำรวจ เป็นเรื่องของศาลไป ในส่วนของเราจะให้เขามีโอกาสได้เรียนจบชั้น ม.3 จบชั้น ม.6 ประมาณนี้ เป็นหน้าที่ของเราที่จะติดตาม ในส่วนเหตุเกิดที่โรงเรียนมีผลต่อผู้อำนวยการ เป็นหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 ที่จะต้องมีการดำเนินการข้อเท็จจริงให้ชัดเจนว่า ผอ. ได้ปล่อยปะละเลย เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาเบื้องต้น แต่ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการเอง สนง.การศึกษาขั้นพื้นฐานเอง ก็มีหน้าที่กำกับติดตาม รายงานตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ดำเนินการไปอย่างไร ในเบื้องต้นครูทั้ง 5 คน อันดับแรกคือ เป็นข่าวให้เกียรติสื่อมวลชน เมื่อเด็กได้รับผลกระทบเรามาพูดมาคุยกับเด็กก็จะทำให้เรารู้ได้ว่าเกิดเหตุอะไร แต่พอเราเชื่อว่าเด็กไม่โกหก และเราเชื่อว่าคุณครูทำในเบื้องต้น เชื่อว่าเขาต้องทำในสิ่งที่เด็กร้องไป เบื้องต้นกระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับสื่อ ถ้าสื่อลงไปแปลว่ามันไม่ใช่เรื่องเหลวไหล เราเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ เหมือนเคสที่เพชรบูรณ์ ถ้าสื่อไม่เอามาลง เราก็ไม่ได้เห็นภาพอะไร แต่นี่มีคลิปมีภาพ ถามว่าเด็กจะโกหกไหม มีไลน์กลุ่ม ที่เด็กมีที่ผู้ปกครองเห็น เราเชื่อเบื้องต้นว่ามันเป็นข้อเท็จจริง
ในกรณีที่บ้านพักครูอยู่ในป่า เป็นอันตราย มีทางแก้ไข ก็คิดเหมือนกัน ทางเราได้ลงพื้นที่ทำไมต้องมาปลูกไกล มันเกี่ยวกับอะไร มันเป็นข้อห่วงใยที่เราต้องไปรายงานให้ผู้บังคับบัญชาอีกครั้งหนึ่ง การดำเนินการในส่วนนี้ มันไม่ถูกต้องเลย การที่บ้านพักไปอยู่ลึก และเปรียวมันน่ากลัวเห็นแล้วคิดตกเลย ดร.ชนะกล่าว
สำหรับนักเรียนผู้เสียหาย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความดูแลผู้ปกครอง และบ้านพักเด็กจังหวัดมุกดาหาร พร้อมที่จะรับเด็กไว้ดูแล ในการสอบสวนฟ้องร้องต่อศาล การสอบปากคำเด็กจะมีสหวิชาชีพร่วมพูดคุยด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา อำเภอเมืองเข้าไปเยี่ยม ให้ขวัญกำลังใจ
ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร