กองทัพภาคที่ ๓ จัดกิจกรรมช่วยเหลือประชาชนใน “โครงการArmy Delivery ช่วยเหลือผู้ประสบภัย COVID-19”
พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ ๓ เป็นประธานเปิดกิจกรรมใน “โครงการArmy Delivery ช่วยเหลือผู้ประสบภัย COVID-19” ณ หน้าลานพื้นแข็งหน้าสโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวร-มหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ในวันพฤหัสบดีที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๓๐ นาฬิกา ตามนโยบายของ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ดำเนินการดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด – ๑๙ อย่างต่อเนื่องตามศักยภาพของหน่วย ในส่วนของกองทัพภาคที่ ๓ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – ๑๙ ในรูปแบบโครงการ “39 Mobile Delivery ” การจัดรถจักรยานยนต์ส่งเครื่องอุปโภคบริโภค, ข้าวสาร อาหารแห้ง ฯลฯ ให้พี่น้องประชาชนถึงที่พักอาศัยโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาด้านผลผลิตทางการเกษตร ,การจำหน่ายผลผลิตโครงการทหารพันธุ์ดีและการแจกจ่ายอาหารให้กับประชาชนโดยใช้รถครัวสนาม
ปัจจุบันทำการแจกจ่ายไปแล้ว จำนวน 86,444 กล่อง ซึ่งโครงการต่างๆ ดังกล่าวได้รับการตอบรับจากภาครัฐ ภาคเอกชนและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ กองทัพภาคที่ ๓ เป็นอย่างดียิ่ง รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งส่วนกลางและในพื้นที่ อาทิเช่น ททบ., NBT (ช่อง ๑๑), ช่อง ๘, รายการแฉ ช่อง GMM25 ฯลฯ ให้ความสนใจและร่วมนำเสนอข่าว, รายการโทรทัศน์ เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของกองทัพบก เป็นอย่างมาก แม่ทัพภาคที่ ๓ ได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่กองทัพภาคที่ ๓ จากสถานการณ์ดังกล่าว ต้องตกอยู่ในภาวะลำบาก ขาดแคลนอาหาร ของใช้จำเป็น และยารักษาโรค จึงจัดกิจกรรม โดยใช้ชื่อ “โครงการ Army Delivery ช่วยเหลือผู้ประสบภัย COVID – 19” ขึ้น
ทั้งนี้เพื่อเป็นการบูรณาการ การปฏิบัติของหน่วยทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ ๓ ในส่วนพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกได้มอบหมายให้ กองพลทหารราบที่ ๔, กองพลพัฒนาที่ ๓, กองบัญชาการช่วยรบที่ ๓ และ มณฑลทหารบกที่ ๓๙ รวมทั้งเครือข่ายภาคเอกชน อาทิเช่น บริษัท มาดามฟิน จำกัด, บริษัท บาย อิชชู่ จำกัด ,รายการโทรทัศน์ “แฉ” ช่อง GMM25 และวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (พระพุทธิวงศมุนี เจ้าอาวาส) ได้ร่วมบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค, อาหารแห้ง, ของใช้จำเป็นและยารักษาโรคเพื่อมอบให้ทหารดำเนินการแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยมุ่งเน้นในการเข้าช่วยเหลือชาวบ้านประชาชนที่มีความเดือดร้อนอย่างมาก (ข้อมูลจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) อยู่ห่างไกลพื้นที่เมือง และไม่สามารถเดินทางออกมารับความช่วยเหลือได้ เพื่อให้การปฏิบัติดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจึงมอบให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้
กองพลทหารราบที่ ๔ ดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชน ดังนี้
– ตั้งแต่วันที่ ๗ – ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชนฯ ในพื้นที่ชุมชนรอบ
ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
– ตั้งแต่วันที่ ๑๕ – ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชนฯ ในพื้นที่ อำเภอวัดโบสถ์ และ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
กองพลพัฒนาที่ ๓ ดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชน ดังนี้
– ตั้งแต่วันที่ ๗ – ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชนฯ ในพื้นที่ชุมชนรอบ
ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก
– ตั้งแต่วันที่ ๑๔ – ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชนฯ ในพื้นที่ อำเภอนครไทย และ อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
กองบัญชาการช่วยรบที่ ๓ ดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชน ดังนี้
– ตั้งแต่วันที่ ๗ – ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชนฯ ในพื้นที่ ชุมชนรอบ
ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
– ตั้งแต่วันที่ ๑๗ – ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชนฯ ในพื้นที่ อำเภอเนินมะปราง และ อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก
มณฑลทหารบกที่ ๓๙ ดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชน ดังนี้
– ตั้งแต่วันที่ ๗ – ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชนฯ ในพื้นที่ชุมชนรอบ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
– ตั้งแต่วันที่ ๑๖ – ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชนฯ ในพื้นที่อำเภอเมือง, อำเภอบางระกำ และอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งในแต่ละหน่วยมีการประกอบกำลัง ดังนี้
– ชุด Mobile จำนวน ๗ คัน พร้อมติดตั้งกล่องอเนกประสงค์ ใส่สิ่งของช่วยเหลือกับรถจักรยานยนต์
นอกจากนั้นยังมีชุดจิตอาสา ชุดอาสาสมัครกิจการพลเรือน (อส.กร.) และชุดแพทย์เคลื่อนที่ ชุดละ ๓ คัน รวมทั้งสิ้น ๑๖ คัน ในการดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าว