กรมปศุสัตว์ เปิดตลาดสินค้าเนื้อสัตว์ปีกแช่เย็นส่งออกไปสิงคโปร์ได้เป็นครั้งแรก คาดสร้างรายได้เข้าประเทศไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทต่อปี
จากเดิมส่งออกได้เฉพาะเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็ง ตอกย้ำความเชื่อมั่นผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ปีกของไทย
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้ประสานงานกับสำนักงานควบคุมอาหารของสิงค์โปร์ (SFA) อย่างต่อเนื่องตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้หาตลาดเพื่อส่งออกสินค้าใหม่ๆ ล่าสุดสิงคโปร์ประกาศรับซื้อสินค้าเพิ่มเนื้อสัตว์ปีกแช่เย็นจากไทยเพิ่มเติม จากเดิมรับเฉพาะเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งเท่านั้น ซึ่งนับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ เนื่องจากสิงคโปร์จัดสินค้ากลุ่มเนื้อสัตว์ปีกแช่เย็นเป็นสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงเพราะต้องจัดเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 0-4 องศาเซลเซียส เพื่อให้นำไปปรุงสุกได้ทันที โดยยังคงรสชาติที่ดีและสดใหม่
การที่สิงคโปร์เปิดตลาดรับสินค้าเนื้อสัตว์ปีกแช่เย็นจากไทยแสดงถึง มีความมั่นใจในระบบการกำกับดูแลการผลิตสินค้าเนื้อสัตว์ปีกของกรมปศุสัตว์ ซึ่งมีมาตรการควบคุมเชื้อแซลโมเนลลา การเฝ้าระวังยาสัตว์ตกค้างและสารปนเปื้อนในระบบการเลี้ยงไก่/เป็ดเนื้อ ตลอดจนอาหารสัตว์ที่ใช้ในการเลี้ยง คาดการว่า จะมีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 100 ล้านบาท อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดการจ้างแรงงานในระบบการผลิตสินค้าสัตว์ปีกในภาวะที่มีผู้ตกงานจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไทยส่งออกสินค้าเนื้อสัตว์ปีกไปยังตลาดหลักคือ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ โดยเป็นสินค้าเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งประมาณร้อยละ 70% ในปี 2562 มีปริมาณการส่งออก 963,182.76 ตัน คิดเป็นมูลค่า 113,023.60 ล้านบาท ส่วนอีกร้อยละ 30 เป็นการส่งออกสินค้าเนื้อสัตว์ปีกแช่เย็นซึ่งตลาดหลักคือ ประเทศเพื่อนบ้านไทยได้แก่ พม่า ลาว และกัมพูชา มีปริมาณการส่งออกสินค้า 6,147.73 ตัน คิดเป็นมูลค่า 554.49 ล้านบาท ดังนั้นการเปิดตลาดสิงคโปร์เพิ่มได้จะสร้างรายได้และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ประสงค์จะส่งออกสินค้าเนื้อสัตว์ปีกแช่เย็น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มตรวจสอบมาตรฐานด้านการปศุสัตว์ สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ (สพส.) กรมปศุสัตว์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-653-4444 ต่อ 3134