งานเข้าแม่เด็กเมื่อชาวโซเชียลถล่มเฟสบุ๊ค เหตุเด็กวิ่งชนรถหลังจากโพสกล่าวหาว่าชนแล้วหนี

จากกรณีที่มีการโพสคลิปเด็กวิ่งชนรถจักยานยนต์ หลังจากนั้นได้มีการแชร์กันเป็นจำนวนมาก โดยเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่เด็กผู้หญิงคนนี้เปิดประตูวิ่งลงมาจากรถ แล้ววิ่งไปชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่มาทางตรง จนกระเด็นล้มบนถนน เหตุเกิดที่ตลาดวัฒนธรรมพรเพชร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหารโดยหลังจากเกิดเหตุ ชายคนที่ขี่รถจักรยานยนต์ได้ลงมาช่วยอุ้มเด็กเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น โดยมีพ่อวิ่งตามมาดูลูกของตัวเอง
หลังจากนั้นได้มีการโพสจากแม่ของเด็กโดยพิมพ์ข้อความว่า ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลลูกถูกรถชนแล้วหนี ซึ่งอ้างว่าลูกของตัวเองไม่ผิดเพราะยื่นอยู่ข้างถนนแล้วรถมาชนจนล้มแล้วหนีไป หลังจากนั้นก็มีผู้ใช้เฟสบุ๊เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนมากไปในแนวทางด่าทอแม่ของเด็ก

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 63 ผู้สื่อข่าวได้ลงไปที่จุดเกิดเหตุที่ตลาดวัฒนธรรมพรเพชร และได้ตามหาบุคคลในคลิปที่ขับรถจักยานยนต์ทราบว่าคือ นาย วัชราวุธ สงวนสิทธิ์ อายุ 25 ปี หรือ น้องแมน เป็นชาวจังหวัดมุกดาหาร มีอาชีพรับจ้างทั่วไป จึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น นาย วัชราวุธ หรือน้องแมน เล่าว่า ขณะที่ตัวเองกำลังขับรถมาด้วยความเร็วประมาณ 20-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่อยู่ๆก็มีเด็กวิ่งออกมาตัดหน้ารถแต่ตัวเองได้หักหลบอย่างไว อีกอย่างเคยเป็นนักกีฬาแข่งรถจึงมีประสบการณ์แก้ปัญหาเฉพาะหน้า จนเด็กชนเข้ากับตัวรถตามภาพที่เห็นในวงจรปิด

ส่วนกรณีที่มีคนสงสัยว่า ระหว่างนั้นพ่อของเด็กได้ต่อว่าตัวเองหรือไม่ น้องแมน บอกว่า คงเป็นอารมณ์ขณะนั้น เพราะคงรักและห่วงลูกมากจึงตะคอกใส่ด้วยอารมณ์ ซึ่งก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ส่วนแม่เด็กไปโพสว่าตัวเองหนีนั้น ไม่เป็นความจริงเพราะหลังจากเกิดเหตุพยามให้นายจ้างติดต่อทางฝ่ายนั้นตลอดทั้งคืนจนติดต่อได้แล้ว และได้โทรเพื่อปรับความเข้าใจ

นาย วัชราวุธ สงวนสิทธิ์ หรือน้องแมน เล่าว่า ช่วงที่ขี่รถออกมาทางศาลพระภูมิ ไม่เร็วเท่าไหร่ประมาณ 20-30 กม./ชั่วโมง พอมาถึงที่เกิดเหตุได้เหยียบครัชไหลมา พอดีมีเด็กวิ่งออกมาด้วยความตกใจและมีสติอยู่บ้างก็เลยหักหลบ และเบรกกะทันหัน เห็นน้องล้มลงก็ตกใจ ก็เลยลงไปช่วยประคองออกมาด้านข้างถนน กลัวรถข้างหลังตามมา ส่วนพ่อของเด็กที่ดุด่า ก็คือว่าน่าจะด้วยความเป็นห่วงลูก สัญชาตญาณความเป็นพ่อห่วงลูกมากกว่า

นาย วัชราวุธ สงวนสิทธิ์ เล่าต่ออีกว่า ในส่วนของเฟสบุ๊คของแม่เด็กโพสว่า ชนแล้วหนีนั้น เป็นการเข้าใจผิดมากกว่า เราจะตีความข้างเดียวไม่ได้ ทางผมก็ไม่ได้หนี แต่ผมหลีกเลี่ยงในการปะทะ หรือความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นที่จะตามมา แต่ผมก็กลับมาหาพี่เขามาเล่าที่ประสบเหตุ ในส่วนของหัวหน้าได้ติดต่อไปหาพ่อเด็กว่าจะเข้ามาเคลียร์ในตอนเย็น แต่ผมก็มีความรู้สึกผิดในใจ เมื่อคืนนอนไม่หลับ

ในส่วนของการรับผิดชอบถ้าน้องมีอาการบาดเจ็บ ด้านน้องแมนพร้อมจะรับผิดชอบถ้าเกิดมีการเข้าโรงพยาบาลแล้วมีค่าใช้จ่าย และเมื่อเวลา 18.30 น. ของวันที่ 6 พค.63 ครอบครัวของเด็กได้เดินทางมาเพื่อพูดคุยและกล่าวของโทษซึ่งกันและกัน ที่ตลาดวัฒนธรรมพรเพชรทั่งสองฝ่ายจบลงด้วยดี

ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร