คนไทยที่ตกค้างในมาเลย์ เดินทางกลับภูมิลำเนาต่อเนื่องเป็นวันที่3

คนไทยที่ตกค้างในมาเลย์ เดินทางกลับภูมิลำเนาต่อเนื่องเป็นวันที่3

 

 

รายงานข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีการผ่อนปรนให้คนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของ ประเทศมาเลเซีย เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยผ่านด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ต่อเนื่องในวันที่ 3 โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยที่ได้ขออนุญาตตามกระบวนการผ่านสถานทูตและสถานกงสุลเท่านั้น จากการติดตามบรรยากาศที่บริเวณด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับด่านพรมแดนเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย พบว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ได้อำนวยความสะดวกด้วยการนำรถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน ไปรับคนไทยที่ผ่านการตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางกับเจ้าหน้าที่ด่านพรมแดนเมืองรันตูปันยัง เที่ยวละ 7 คน นำกลับมายังด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก และจากการตรวจสอบบุคคลในเบื้องต้นได้แสดงความประสงค์ ผ่านราชื่อของสถานทูตและสถานกงสุล ในวันนี้ จำนวน 100 คน และได้ทยอยเดินทางเข้ามาประเทศแล้ว จำนวน 60 คน ซึ่งเวลาที่เหลือก่อนถึงเวลา 12.00 น.ของทุกวัน ที่มีการกำหนดปิดด่านพรมแดนทั้ง 2 ฟากฝั่งไทยและมาเลเซีย ก็คาดว่าจะมีคนไทยที่ตกค้างในประเทศมาเลเซีย ทยอยเดินทางเดินทางภูมิลำเนาเพิ่มอีกจำนวนหนึ่งแต่ไม่เกิน 100 คน ที่ได้ขออนุญาตผ่านสถานทูตและสถานกงสุล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรค 3 ขั้นตอน 5 จุด เหมือนกับกลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับภูมิลำเนา 2 วันที่ผ่านเช่นกัน ก่อนที่จะนำขึ้นรถยนต์ที่จัดเตรียมไว้ ส่งตามภูมิลำเนาที่อาศัยอยู่ โดยแต่ละจังหวัดจำนำไปกักตัว 14 วัน ตามกระบวนการ

 

 

สำหรับ 2 วันที่ผ่านมา มีคนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้ขออนุญาตผ่านสถานทูตและสถานกงสุล เดินทางผ่านด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จำนวน 108 คน จากยอดที่แจ้งรายชื่อไว้กับสถานทูตและสถานกงสุล 192 คน ส่วนกลุ่มบุคคลอีก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีหนังสือเดินทางถูกต้อง แต่ไม่ได้รับอนุญาตผ่านสถานทูตและสถานกงสุล กับ กลุ่มที่ไม่มีเอกสารหลักฐาน ที่เดินทางผ่านด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก และนำไปเปรียบเทียบปรับ คนละ 800 บาท ซึ่งกลุ่มบุคคลเหล่านี้ พบว่า 2 วันที่ผ่านมาได้เดินทางเข้าประเทศ รวมทั้งสิ้น 559 คน

ในส่วนของคนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส และจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศ นอกเหนือจากพื้นที่ จ.ปัตตานีและยะลา ที่ถูกส่งตัวไปกักตามภูมิลำเนาที่อาศัยอยู่นั้น ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมามีจำนวน 362 คน ที่ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวของ จ.นราธิวาส ได้กระจายไปกักตัวที่จัดเตรียมไว้ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ เป็นเวลา 14 วัน เมื่อครบกำหนดก็จะส่งตัวกลับบ้านตามกระบวนการ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของคนไทย 2 กลุ่มที่ไม่ได้อนุญาตผ่านสถานทูตและสถานกงสุล และกลุ่มที่ไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆ ที่เจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้เดินทางผ่านด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เหมือน 2 วันที่ผ่านมา มีจำนวน 559 คน ในช่วงเวลา 14.00 น.นั้น ทราบจากแหล่งข่าวว่า ขณะนี้กลุ่มบุคคลทั้ง 2 กลุ่ม ได้เดินทางมารอที่ด่านพรมแดนเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อกลับภูมิลำเนาแม้ทราบว่าจะถูกเปรียบเทียบปรับคนละ 800 บาทก็ตาม ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการรับคนไทยเข้าประเทศ กำลังมีการประชุมหารือเรื่องดังกล่าวกันอย่างเคร่งเครียด เพื่อหาทางออกและวางมาตรการต่างๆ ในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 กลับกลุ่มคนเหล่านี้ที่อาจจะนำเชื้อไวรัสโควิด 19 จากพื้นที่ประเทศมาเลเซีย มาแพร่ระบาดในพื้นที่ประเทศไทย

 

ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ  นราธิวาส

You May Have Missed!

1 Minute
โรงพยาบาล
สำนักอนามัยจัดกิจกรรมรณรงค์วันส้วมโลก ประจำปี 2567 ณ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
1 Minute
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ จัดพิธีทำบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงพยาบาล
0 Minutes
ข่าวประชาสัมพันธ์
ทรู แจกใหญ่ จัดหนัก กับ แคมเปญ “รวยคูณสอง แจกทอง แจกรถ” ร่วมกับ 8 พาร์ทเนอร์ชั้นนำ มอบโชคใหญ่ให้ลูกค้าทรู ดีแทค รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เพียงสมัครบริการเสริม ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลทันที ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พ.ค. 68
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
คณะกรรมการบริหารโรงเรียนปลูกปัญญา แต่งตั้ง “บิ๊กทิน” ผจก.ฟุตซอลทีมชาติไทย  เป็นประธานที่ปรึกษาโรงเรียน