คนไทยแห่กลับภูมิลำเนา ด่านสุไหงโก-ลกเปิดเป็นวันแรก

คนไทยแห่กลับภูมิลำเนา ด่านสุไหงโก-ลกเปิดเป็นวันแรก

 

สำหรับความเคลื่อนไหวกรณีด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้เปิดด่านเพื่อรับคนไทยที่ตกค้างอยู่รัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย เพื่อกลับภูมิลำเนา โดยด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ด่านพรมแดนของ 4 จังหวัดภาคใต้ ที่เตรียมความพร้อมรองรับในครั้งนี้ และจากการเฝ้าสังเกตการณ์เปิดด่านพรมแดนในเวลา 07.00 น. พบว่า มีแรงงานไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลย์ โดยเฉพาะแรงงานไทยที่เดินทางจากรัฐยะโฮห์บารู จำนวน 32 คน ได้เดินทางถึงด่านพรมแดนเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เป็นกลุ่มแรก และเมื่อด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เปิดทำการ นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลกและนายจักกฤช อุเทนสุต นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ได้เดินทางไปรับกลุ่มคนไทยเหล่านั้นที่ด่านพรมแดนเมืองรันตูปันยังด้วยตนเอง ก่อนที่จะนำขึ้นรถยนต์กระบะเดินทางข้ามมายังด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ซึ่งสร้างความดีใจยิ่งนักแก่กลุ่มคนไทยเหล่านั้น จากรอยยิ้มที่แสดงออกมา

และกลุ่มคนไทยเหล่านั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้ากระบวนการคัดกรอง 3 ครั้ง 5 ขั้นตอน ทั้งวัดอุณหภูมิของร่างกาย สอบประวัติ และนำสิ่งของสัมภาระไปฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ เพื่อสร้างความมั่นใจว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าว ไม่นำเชื้อไวรัสโควิด 19 ไปแพร่ระบาดยังสถานที่กักตัวของภูมิลำเนาแต่ละบุคคลที่อาศัยอยู่ และเกือบตลอดทั้งวันก็ยังมีกลุ่มคนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย ที่ได้มีการขออนุญาตถูกต้องตามกระบวนการ ทยอยเดินทางข้ามด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก อย่างต่อเนื่องซึ่งในวันนี้ โดยมีรายชื่อผ่านด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จำนวน 91 คน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะจัดขึ้นรถยนต์นำส่งตามรายจังหวัดที่แต่ละบุคคลอาศัยอยู่ โดยในเบื้องต้นกลุ่มคนไทยเหล่านั้น เจ้าหน้าที่ไม่พบว่ามีอาการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่อย่างใด และการเดินทางกลับภูมิลำเนาของคนไทยในครั้งนี้ พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาค 4 ได้เดินทางมาสังเกตการณ์ และร่วมพูดคุยให้กำลังใจกับกลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับในครั้งนี้

ซึ่งต่อมาผู้สื่อข่าวได้ประสานแหล่งข่าวรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐยะโฮห์บารู ประเทศมาเลเซีย และได้ขออนุญาตเดินทางข้ามด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ถูกต้องกับทางการไทย ที่ได้มีโอกาสร่วมเดินทางกลับภูมิลำเนาวันแรกของการเปิดด่านในครั้งนี้ ได้บันทึกภาพวีดีโอผ่านโทรศัพท์มือถือถึงขั้นตอนการเดินทางกลับประเทศไทย จากรัฐยะโฮห์บารู ถึงด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ซึ่งมีระยะทางกว่า 800 ก.ม. ซึ่งก่อนโดยสารรถบัสนำเที่ยวของประเทศมาเลเซีย จำนวน 2 คัน รวม 32 คน จะมีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตทำการตรวจสอบหลักฐานเอกสารต่างๆว่าครบถ้วนหรือมั๊ย แล้วให้คนไทยแต่ละคนนั่งโดยสารรถบัส ที่ทางเจ้าหน้าที่สถานทูตได้จัดเตรียมไว้ให้ ในระยะห่างเบาะเว้นเบาะ ซึ่งในแต่ละคันสามารถโดยสารได้เพียง 16 คนเท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อและแพร่ระบาดของวัสโควิด 19 ซึ่งกันและกัน

โดยกลุ่มคนไทยกลุ่มนี้ได้นั่งรถบัสออกเดินทางจากรัฐยะโฮห์บารู ในเวลา 17.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ช.ม. โดยคนขับจะจอดเฉพาะที่ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้กลุ่มคนไทยเหล่านั้น ได้ปลดทุกข์ดื่มน้ำและคลายอริยะบท ซึ่งตลอดการนั่งรถบัสโดยสารตลอดทั้งคืน ได้ผ่านจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ทางการประเทศมาเลเซียมากกว่า 20 จุด ที่รถบัสต้องจอดให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ ว่ากลุ่มคนไทยเหล่านี้ได้ขออนุญาตเดินทางถูกต้องหรือไม่ จนกระทั่งในเวลา 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศมาเลเซีย กลุ่มคนไทยเหล่านี้ได้เดินทางถึงด่านพรมแดนเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ด้วยสวัสดิภาพ และเมื่อถึงเวลาเปิดด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลกและนายจักกฤช อุเทนสุต นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก มารับด้วยความอบอุ่น

ด้านตัวแทนกลุ่มคนไทยที่เดินทางจากรัฐยะโฮห์บารู ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า ต้องขอบคุณสถานกงสุลไทยและเจ้าหน้าที่สถานทูตทุกท่าน ที่ช่วยเหลือคนไทยที่อยู่ในประเทศมาเลเซียเดินทางกลับบ้าน และช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดหารถรวมทั้งดูแลคนไทยที่อยู่ในประเทศมาเลเซียเป็นอย่างดีรู้สึกดีใจ ตนดีใจมาที่ได้เดินทางกลับบ้าน

 

ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ  นราธิวาส