คุณตาชาวอำเภอโพธิ์ชัย ระหว่างเก็บตัวอยู่ที่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ หลบภัยโรคโควิด 19 ใช้เวลาสานกระติ๊บข้าวเหนียวขายในชุมชน และสู่ท้องตลาดสร้างรายได้เพิ่ม
วันที่ 17เมษายน 2563 เวลา 14.00น. ผู้สื่อข่าวได้มาพบ นายสงวน ชำนาญยง อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ที่ 16 บ้านศรีโพธิ์คำ ตำบลขามเปี้ย อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด จากการสอบถามทราบว่า ในช่วงนี้รัฐบาลได้รณรงค์ให้อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ซึ่งตนเองและครอบครัว จึงได้ช่วยกันสานกระติ๊บข้าวเหนียวได้มากขึ้น เพราะว่าอยู่บ้านตลอด กลับสร้างรายได้มากขึ้น และจากไม่มีที่ไร่ ที่นา ทำกินตอนเป็นเด็ก จึงเรียนสานกระติ๊บข้าว สำหรับใส่ข้าวเหนียวนึ่งสุกแล้วกับบิดา มารดาซึ่งมีอาชีพสานกระติ๊บข้าวขาย เพื่อมาซื้อข้าวปลาอาหารเลี้ยงชีพจนถึงปัจจุบัน ได้ถ่ายทอดวิชาการสานกระติ๊บข้าวเหนียวให้แก่ลูกหลาน สามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้เลี้ยงตนเองและในช่วงนี้ทุกคนไม่ได้ไปทำงานที่อื่น อยู่บ้านช่วยกันสานกระติ๊บข้าวเหนียวขายดีกว่าช่วงที่ผ่านมา
นายสงวน กล่าวว่า ตนเองได้สานกระติ๊บข้าว มีหลายรุ่น หลายราคา ตามขนาด ตั้งแต่ราคา 100บาทไปจนถึง รุ่นใหญ่ ราคา 200บาท โดยมีพ่อค้า แม่ค้ามารับเหมาซื้อไปขายอีกทอดหนึ่ง อุปกรณ์ในการสานกระติ๊บข้าว ประกอบด้วย ไม้ไผ่ ,ไม้มะกอกหรือไม้ยอ หวายหรือพาสติกรัดของ ขั้นตอนการสานจะต้องนำไม้ไผ่มาตัดออกเป็นข้อๆตามขนาดของป้อง ผ่าออกเป็นซีกๆมาจักออกมาเป็นเส้นบางๆเหลาเป็นเส้นตอกบางๆ มาสานเป็นลายสอง ยืนยาวตามขนาดป้องไม้ไผ่จนเสร็จ แล้วพับกลับคืนมาเป็นเพื่อนำตู๋ หรือ อุปกรณ์มาปิดไม่ให้ข้าวหลุดออก แล้วใช้ฝาปิดมาปิดปากอีก หลังจากนั้นนายบัวศรี โพธิ์ชัยศรี และนางบัวพันธ์ ชัยศิริ จะมารับเอากระติ๊บไปใส่ตีนกระติ๊บและสายสะพาย เสร็จแล้วนายไสว ถินมานัด พ่อค้า แม่ค้า ก็จะมาเหมาซื้อไปขายตามหมู่บ้านหรือตามตลาดนัด หรือลูกค้าไม่มีเงินซื้อก็จะนำข้าวเปลือกมาแลกเปลี่ยนกันกับกระติ๊บข้าว มากน้อยแล้วแต่ตกลงกัน และในช่วงนี้ รัฐบาลได้รณรงค์ ให้อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนแต่ละวันจึงสามารถผลิตกระติ๊บข้าวได้มากขึ้น สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ครอบครัวมากขึ้น ไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท ขึ้นไป
คณิต ไชยจันทร์ ภาพ/ข่าว