กรมชลประทาน ระดมเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ทั่วประเทศต่อเนื่อง
บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค
วอนทุกฝ่ายร่วมกันใช้น้ำตามแผนบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อมีน้ำใช้จนกว่าจะเข้าสู่ฤดูฝนปกติ
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ของประเทศอยู่ในขณะนี้ กรมชลประทาน ได้วางมาตรการในการบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามแผนฯที่วางไว้ พร้อมกับเดินหน้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง อาทิ ที่จังหวัดลำปาง สำนักงานชลประทานที่ 2 ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง สูบน้ำจากสระเก็บกักน้ำของหมู่บ้าน ช่วยเหลือราษฎรบ้านดอกคำใต้หมู่ที่ 1 บ้านแม่ตีบหลวง หมู่ที่ 2 บ้านน้ำหลง หมู่ที่ 3 ตำบลแม่ตีบ อำเภองาว จำนวน 132 ครัวเรือน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้อย่างทั่วถึง
ด้านสำนักงานชลประทานที่ 10 ได้นำรถบรรทุกน้ำขนน้ำรวมกว่า 72,000 ลิตร ไปช่วยเหลือสวนผลไม้ ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 72,000 ลิตร และสวนพุทรา ในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี อีก 66,000 ลิตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือไม้ผลไม่ให้เกิดความเสียหาย นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำทั้งหมด 32 เครื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ดังนี้ ลพบุรี 15 เครื่อง สระบุรี 1 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 2 เครื่อง เพชรบูรณ์ 1 เครื่อง ชัยนาท 8 เครื่อง และนครสวรรค์ 5 เครื่อง
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสามชุก ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง พื้นที่หมู่ 1 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง พื้นที่หมู่ 1 ต.ดอนเจดีย์ และพื้นที่หมู่ 1 ต.ไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ เพื่อสูบน้ำช่วยเหลือราษฎรที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ที่จังหวัดชัยนาท สำนักงานชลประทานที่ 12 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง ในพื้นที่หมู่ 9 ต.บ้านเชี่ยน อ.หันคา สูบน้ำช่วยเหลือราษฎรที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ในเขตของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าโบสถ์
ส่วนที่จังหวัดนราธิวาส โครงการชลประทานนราธิวาส ลงพื้นที่พิจารณาโครงการจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้กับฝายบ้านน้ำหอม โครงการหมู่บ้านป้องกันตนเองชายแดนไทย – มาเลเซีย หมู่ที่ 6 ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ เพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง ให้แก่ราษฎรในพื้นที่ จำนวน 300 ครัวเรือน
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยแล้งทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ จนกว่าจะเข้าสู่ฤดูฝนปกติ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอไม่ขาดแคลน หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือเรื่องน้ำ สามารถประสานไปยังโครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460
อย่างไรก็ตามในส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 15 เม.ย. 63) สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศจำนวน 447 แห่ง มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น 36,864 ล้าน ลบ.ม. (49% ของความจุอ่างฯ) ปริมาณน้ำใช้การได้ 13,168 ล้าน ลบ.ม. (25% ของความจุน้ำใช้การ) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำใช้การน้อยกว่าหรือเท่ากับ 30% ของความจุอ่าง จำนวน 24 แห่ง คือ ภูมิพล สิริกิติ์ แม่งัดสมบูรณ์ชล แม่กวงอุดมธารา กิ่วคอหมา แควน้อยบำรุงแดน แม่มอก ห้วยหลวง จุฬาภรณ์ อุบลรัตน์ ลำตะคอง ลำพระเพลิง มูลบน ลำแชะ ลำนางรอง สิรินธร ป่าสักชลสิทธิ์ ทับเสลา กระเสียว ขุนด่านปราการชล คลองสียัด บางพระ หนองปลาไหล และประแสร์
สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยฯ และป่าสักฯ) (ข้อมูล ณ วันที่ 14 เม.ย. 63) ปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 8,974 ล้าน ลบ.ม. (36% ของความจุอ่างฯ) เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 2,278 ล้าน ลบ.ม. (13% ของความจุน้ำใช้การ) ส่วนผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2562/63 ทั้งประเทศ แผนการจัดสรรน้ำ 17,699 ล้าน ลบ.ม. จัดสรรน้ำไปแล้ว 15,552 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 88 และเจ้าพระยา แผนการจัดสรรน้ำ 4,500 ล้าน ลบ.ม. จัดสรรน้ำไปแล้ว 4176 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 93 สำหรับแผน-ผลการเพาะปลูกข้าวนาปรังปี 2562/63 ในเขตชลประทาน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 เม.ย. 63) ทั้งประเทศ แผนเพาะปลูกข้าวนาปรัง 2.31 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 4.20 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 182.01 ของแผนฯ เก็บเกี่ยวแล้ว 2.28 ล้านไร่ และลุ่มน้ำเจ้าพระยา แผนเพาะปลูกข้าวนาปรัง – ล้านไร่ (รณรงค์งดทำนาต่อเนื่องฤดูแล้ง ปี 2562/63) เพาะปลูกแล้ว 1.98 ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว 1.68 ล้านไร่
นอกจากนี้กรมชลประทานยังมีการดำเนินงานให้ความช่วยเหลือของศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขและบรรเทาวิกฤตภัยแล้งฯ ในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย
1) คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำชลประทานเขื่อนแม่กวง (JMC) มีมติปรับรอบเวรการส่งน้ำในรอบเวรที่ 4 ช่วงเดือนเมษายน 2563 เพื่อส่งน้ำช่วยเหลือสวนลำไยและพืชสวนในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ำเพียงพอใช้ไปจนถึงต้นฤดูฝน
2) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเสียวใหญ่ สำนักงานชลประทานที่ 6 ลงพื้นที่ฝายยางบ้านเมืองบัว ตำบลเมืองบัว อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อตรวจและติดตามสถานการณ์น้ำในลำเสียวใหญ่ พร้อมวางแผนสูบน้ำให้กับการประปาส่วนภูมิภาค เพื่อการสูบน้ำกักเก็บเป็นน้ำดิบสำรองใช้ในการผลิตน้ำประปา ส่งให้ราษฎรในพื้นที่ตำบลเมืองบัวและเทศบาลตำบลเกษตรวิสัย ให้มีน้ำอุปโภค-บริโภคอย่างพอเพียงจนถึงสิ้นฤดูแล้ง
3) โครงการชลประทานนครราชสีมา สำนักงานชลประทานที่ 8 ลงพื้นที่นำรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายน้ำอุปโภค-บริโภค เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ตำบลด่านใน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
4) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช สำนักงานชลประทานที่ 10 ลงพื้นที่ติดตามการให้ความช่วยเหลือสวนพุทราที่ประสบภัยแล้ง พร้อมลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานของโครงการแก้มลิงคลองระบาย 1 ซ้าย พร้อมอาคารประกอบ ตำบลบางงา อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี แก้มลิงห้วยกระทุ่ม ตำบลสี่คลอง อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี และแก้มลิงหนองห้วยทราย ตำบลบ้านเบิก อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี
5) โครงการชลประทานลพบุรี สำนักงานชลประทานที่ 10 ดำเนินการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในการอุปโภค-บริโภค ไม้ผล และรักษาระบบนิเวศ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 12 เครื่อง เพื่อสูบน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก เติมแม่น้ำบางขามและแม่น้ำลพบุรี ช่วยเหลือพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอท่าวุ้ง รวม 13 ตำบล
6) สำนักงานชลประทานที่ 17 ลงพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดท่อ 8 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง สูบน้ำเพื่อเพิ่มระดับน้ำในคลองปาเสมัส ณ บ้านน้ำตก หมู่ที่ 1 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส แก้ไขสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่
และ 7) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโพธิ์พระยา สำนักงานชลประทานที่ 12 ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง ที่หมู่ 2 ต.วังยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เพื่อสูบน้ำช่วยเหลือราษฎรที่ประสบปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค ในเขตพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโพธิ์พระยา