ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนักจากวิกฤติโควิด19 ทั้งหยุดงานและว่างงานนำทรัพย์สินไปจำนำที่สถานธนานุบาลเมืองสะเดา
เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว จำนำทุกอย่างแม้กระทั่งเครื่องมือช่างที่ใช้หาเลี้ยงชีวิต
ในวันนี้ 10 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามบรรยากาศที่สถานธนานุบาลเมืองสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา พบว่ามีประชาชนนำทรัพย์สินมาจำนำตั้งแต่เปิดให้บริการในช่วงเช้า-จนถึงช่วงบ่าย ทั้งนำสร้อยคอทองคำ แหวนทอง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือช่าง ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และหนึ่งในนั้นมีหญิงสาวอายุประมาณ 35ปี เดินทางมาพร้อมกับสามี ได้นำเครื่องมือช่าง จำนวน 3 ชิ้น คือหม้อแปลงไฟ เครื่องเจียรไฟฟ้า สว่าน มาตั้งจำนำ
จากการสอบถามหญิงสาวคนนี้ทราบว่าตนเองและสามี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ส่วนมากจะเป็นงานเกี่ยวกับซ่อมแซมบ้านเรือน แต่พอช่วงไวรัสโควิด19 ระบาด ตนเองและสามีก็ถูกเลิกจ้างงาน และไม่มีเงินติดตัว ซึ่งตอนนี้ภาระต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน และหาเงินไม่ทันก็เลยต้องนำเครื่องมือทำมาหากินมาจำนำ เอาเงินไปจ่ายค่าเช่าบ้านก่อน หญิงสาวคนนี้เล่าอีกว่า ตนเองได้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท จากรัฐบาลและหวังว่าจะได้เงินจากตรงนั้นมาประทังชีวิต แต่เงินยังไม่เข้าบัญชีก็ได้แต่นับวันรอ
ส่วนด้านนาย จิรภัทร ลิปตวัฒนกุล ผู้จัดการสถานธนานุบาล เมืองสะเดา บอกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนมากชาวบ้านจะนำทองคำมาจำนำ80-90% แต่ที่น่าสงสารคือ ชาวบ้านที่ยากจนจริงๆต้องเอาเครื่องมือทำมากินมาจำนำ เครื่องมือช่างบางคนก็นำ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ทีวี มาจำนำเพราะเดือดร้อนหนักจริงๆ นาย จิรภัทร ลิปตวัฒนกุล ผู้จัดการสถานธนานุบาลเมืองสะเดา กล่าวว่า นายสุเมธ ศศิธร นายกเทศบาลเมืองสะเดา สั่งกำชับให้สถานธนานุบาลรับสิ่งของทุกชนิดที่ชาวบ้านนำมาจำนำ และให้ความช่วยเหลือเต็มที่กับชาวบ้านที่เดือดร้อนอย่างหนัก และยังปรับลดดอกเบี้ย ขั้นต่ำเงินต้นไม่เกิน5,000บาทคิดดอกเบี้ย 0.125 สตางค์ ส่วนที่เกิน5,000บาท คิดดอกเบี้ย ร้อยละ1บาท ต่อเดือน และยังได้ฝากประชาสัมพันธ์ ให้กับประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอสะเดา และพื้นที่ใกล้เคียง มาใช้บริการสถานธนานุบาลของรัฐ เพราะสถานธนานุบาลของรัฐ มีความพร้อมรองรับจำนวนมาก
ภาพ-ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร/พิภพ ประดิษฐ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา